เพชรบุรี-ความคืบหน้า รุ่นพี่ ม.5 สั่งทำโทษรุ่นน้อง ม1.ลงบ่อเกรอะโรงเรียนดัง..จบสวย..!!

เพชรบุรี-ความคืบหน้า รุ่นพี่ ม.5 สั่งทำโทษรุ่นน้อง ม1.ลงบ่อเกรอะโรงเรียนดัง..จบสวย..!!

ภาพ-ข่าว:สุรพล นาคนคร

             จากกรณี น.ส.กรภัทร อายุ 38 ปี ได้พา ด.ช.เอ อายุ 13 ปี และ ด.ช.บี อายุ 14 ปี ลูกชาย เข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขอความช่วยเหลือเนื่องจากลูกชายทั้ง 2 คน ถูกรุ่นพี่ ม.5 ของโรงเรียนประจำชื่อดังใน จ.เพชรบุรี สั่งลงโทษอย่างทารุณไร้เหตุผล ให้ลงแช่ในบ่อเกรอะ และลงโทษทางทหารจนเกิดบาดแผลติดเชื้อรักษาไม่หาย ซึ่งทางโรงเรียนและครูหอพักปัดความรับผิดชอบ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
              ล่าสุดเวลา 15.00น.วันนี้ 19 ก.พ.66 ตัวแทนเพจสายไหมต้องรอด ได้พา น.ส.กรภัทร แก้วเอียด อายุ38ปี พร้อมด้วย ด.ช.เอ อายุ13 ปี และ ด.ช.บี อายุ 14ปี ลูกชายทั้ง2คน เข้าพบ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ พ.ต.ท.อภิรักษ์ เพิ่มชัย รอง ผกก. พ.ต.ท.ชูเกียรติ เพชรแท้ รอง ผกก.สวบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย ฝ่ายปกครองชะอำเพื่อเข้าพูดคุย แจ้งความเอาผิดกับทางโรงเรียนและรุ่นพี่ ม.5คนที่ลงโทษ จากนั้นตัวเพจสายไหมต้องรอด ได้พา น.ส.กรภัทร แก้วเอียด อายุ38ปี พร้อมด้วยลูกชายทั้ง2คน เข้าพูดคุยกับ นางสิริณิกุญช์ เพ็ชร์สุกใส ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังใน จ.เพชรบุรี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและความรับผิดชอบของทางโรงเรียน พร้อมด้วย นส.นารีรัตน์ สุขสำราญ อายุ33ปี อาของ (นายพนม สอนดี) อายุ17ปี นักเรียน ม.5รุ่นพี่ที่สั่งทำโทษรุ่นน้องทั้ง 2คน
               นายพนม สอนดี) อายุ17ปี นักเรียน ม.5รุ่นพี่ที่สั่งทำโทษรุ่นน้อง กล่าวว่า ตนยอมรับผิดทำไปโดยไม่ตั้งใจ วันเกิดเหตุได้สั่งให้รุ่นน้องลงบ่อเกรอะจริง และให้กลิ้ง ตนเป็นตนคนสั่งเองคนเดียว ไม่มีครูมาสั่งตนให้ทำ โดยทำไปเพราะคิดไม่ถึง ก่อนหน้านี้ตนเรียนก็ไม่เคยถูกรุ่นพี่ทำโทษแบบนี้ ตนเรียนรู้และคิดขึ้นมาเอง จึงอยากขอโทษแม่และรุ่นน้องทั้ง2คนจนเป็นเรื่องเกินเลยไป
              ด้าน น.ส.กรภัทร อายุ38ปีแม่ของน้องทั้ง 2 กล่าว่า เบื้องต้นจากการพูดคุยกับทางโรงเรียน ตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เพราะอยากให้โอกาสน้อง ม.5 รุ่นพี่ เห็นว่าเรียนใกล้จะจบแล้ว ตัวลูกแม่เองก็อยากให้โอกาสรุ่นพี่ ให้เขามีอนาคต ไม่ต้องมีคดีติดตัว ตนก็เคารพการตัดสินใจของลูก เมื่อลูกให้โอกาสแล้วตนจึงให้โอกาสเด็กได้เรียนต่อ แต่ให้จำไว้ว่าครั้งนี้ขอ ให้เป็นบทเรียนว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ขอฝากถึงโรงเรียนประจำช่วยสอดส่องดูแลอย่าให้มีเหตุการณ์ที่รุ่นพี่ทำโทษรุ่นน้องแบบนี้อีก ยุคสมัยนี้เราต้องใช้เหตุผลในการพูดคุย หากน้องทำอะไรผิดให้กล่าวตักเตือน หรือให้แจ้งครูทราบ เพราะอาจจะเหมือนเคสของน้อง สภาพจิตใจไม่แย่ ส่วนน้องทั้งสองคนก็ให้ลาออกจากโรงเรียนเนื่องจากน้องไม่อยากเรียนที่นี่ต่ออีกแล้ว
               นางสิริณิกุญช์ เพ็ชร์สุกใส ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่าทางโรงเรียนได้พูดคุยกับผู้ปกครองแล้วจบลงด้วยดี ทางโรงเรียนก็ขอบคุณน้องทั้งสองและคุณแม่ด้วยที่ให้โอกาส ตนขอสัญญาว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการดูแลเด็ก และครูประจำหอพัก โดยนำบทเรียนนี้ไปสร้างความเข้าใจกับนักเรียนทุกคน จะต้อง ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ขึ้นอีกในโรงเรียน เหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการสอดส่องดูแลนักเรียนแต่เด็กได้ตัดสินใจเองไม่มีการปรึกษาครู ทางโรงเรียนจะต้องมีนโยบายใหม่ทำโรงเรียนให้เป็นบ้าน ทำครูให้เป็นพ่อแม่ เด็กมีปัญหาอะไรจะได้ปรึกษาครู และให้ครูช่วยกลั่นกรองเพื่อลดปัญหาในโรงเรียนประจำที่เกิดขึ้นดังกล่าว

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!