อุบลราชธานี-รักขมวันวาเลนไทน์ สาว 17 ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายออกอุบายเข้าปั้มแจ้งตำรวจช่วยเหลือ

อุบลราชธานี-รักขมวันวาเลนไทน์ สาว 17 ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายออกอุบายเข้าปั้มแจ้งตำรวจช่วยเหลือ

ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวจังหวัดอุบลราชธานี

สุดช้ำสาวรุ่นวัย 17 โทรแจ้งตำรวจขอความช่วยเหลือหลังแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายจนช้ำ ออกอุบายขอเข้าห้องน้ำปั้มน้ำมันก่อนหนีหลบซ่อนตัวโทรแจ้งเจ้าหน้าที่

               ที่ จ อุบลราชธานี สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 14.14 น.วันที่ 14 ก.พ. ร้อยตำรวจเอกพิพัฒน์ โคตธิสาร รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.วารินชำราบรับแจ้งจาก 191 มีหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลื่อถูกแฟนหนุ่มทำร้าย หลบซ่อนตัวภายในปั้มน้ำมัน ปตท.โนนผึ้ง ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบพนักงานของปั้มน้ำมัน พานางสาวเอ๋ นามสมมุติ อายุ 17 ปี ออกมาจากด้านหลังปั้มน้ำมันเพื่อพบเจ้าตำรวจ โดยนางสาวเอ๋ให้การว่าถูกนายภีมพันธ์ นิวัตร อายุ 20 ปี (แฟนหนุ่ม) ทำร้ายร่างกายอยู่บนรถจนได้รับบาดเจ็บ จนต้องออกอุบายขอเข้าห้องน้ำในปั้มน้ำมันและวิ่งหลบหนีไปมาความช่วยเหลือจากพนักงานปั้มน้ำมันโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

             ซึ่งขณะที่พนักงานนำตัวนางสาวเอ๋ ออกมาจากด้านหลังปั้มน้ำมัน นายภีมพันธ์ ได้เดินตามออกมาเพื่อจะพานางสาวเอ๋ กลับไปขึ้นรถแต่นางสาวเอ๋ปฎิเสธเสียงแข็งไม่ยอมไป เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายอีก นางสาวเอ๋ยังเล่าอีกว่าตนเองคบหากับนายภีมพันธ์ มาประมาณ 1ปี โดยนายภีมพันธ์ มีอาชีพรับจ้างขนสินค้าเกษตรเป็นคนอารมณ์ร้อนชอบทำร้ายตน ล่าสุดรถเกิดยางระเบิดทำให้ต้องเข้าอู่ซ่อม ช่างแจ้งค่าซ่อมประมาณ 3,000 กว่าบาทแต่ช่างบอกนายภีมพันธ์ 3,600 บาท ทำให้นายภีมพันธ์ไม่พอใจมีปากเสียงและมาทำร้ายตนหลังจากออกจากอู่ ซึ่งก่อนหน้านี้นายตนเองเคยถูกนายภีมพันธ์ทำร้ายร่างกายมาแล้วหลายครั้ง ครั้งตนจึงไม่ขอกลับไปอีกแล้ว

             ขณะที่นายภีมพันธ์ ให้การว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน การที่นางสาวเอ๋ปากแตกเกิดจากอุบัติเหตุรถกระบะของตนยางแตก ทำให้หน้าของนางสาวเอ๋ไปกระแทกกับคอลโซนหน้ารถ ทำให้ปากแตกไม่ได้เกิดจากการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ตนยอมรับว่าตนเป็นคนอารมณ์ร้อนให้กราบก็ยอมขอให้นางสาวเอ๋กลับไปกับตน

              เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการติดต่อผู้ปกครองของนางสาวเอ๋ เพื่อแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางผู้ปกครองขอให้นำตัวนางสาวเอ๋ไปดูแลที่ สถานีตำรวจวารินชำราบก่อน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้นายภีมพันธ์กลับมาทำร้ายร่างกายนางสาวเอ๋ และจะทำการโอนเงินให้นางสาวเอ๋ เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดปทุมธานี  ส่วนนายภีมพันธ์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกชื่อที่อยู่เอาไว้เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หากผู้ปกครองประสงค์ที่จะดำเนินคดีสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในภายหลัง

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!