อุบลราชธานี-ชาวอุบลฯ กว่า 2 หมื่นคน แห่ฟัง เพื่อไทย ปราศรัย ล้นวัด

ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดอุบลราชธานี

              วันนี้ ( 17 ก.พ.66 ) เวลาประมาณ 09.30 น. น.ส.อุ๊งอิ๊ง หรือ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยคณะ ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสุทิน คลังแสง นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นาย อดิศริ เพียงเกษ และ นางสาวจิราพร สินธุไพร ได้เดินทางไปปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อไปถึงสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี ในเวลาประมาณ 09.30 น. โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ นายสมคิด เชื้อคง นางสาวกิตธัญญา วาจาดี รวมทั้ง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยประชาชนประมาณ 1,000 คน มารอต้อนรับ เมื่อคณะของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เดินทางมาถึง พี่น้องประชาชนได้มอบดอกกุหลาบให้กับน.ส.แพทองธาร และคณะ ท่ามกลางเสียงไชโย โห่ร้อง ต้อนรับกระหึ่มก้อง
              จากนั้น เวลา 11.00 น. คณะของ น.ส. อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร และคณะได้เดินทางไปปราศรัยที่เวทีกลางแจ้งลานวัดเอี่ยมวนาราม บ้านม่วงเดียด ตําบลคำเจริญ อําเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีประชาชนมารอต้อนรับและรับฟังการปราศรัย กว่า 2 หมื่นคน โดยมีนายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ ส.ส.อุบลฯ เขต 5 เจ้าของพื้นที่ และ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และคณะ ให้การต้อนรับ ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึง น.ส. อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ได้เข้าไปกราบพระพุทธรูป และ รูปหล่อหลวงปู่ลี และ เจ้าอาวาสวัดเอี่ยมวนาราม แล้วเดินทักทายพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับ ก่อนขึ้นเวทีปราศรัย ท่ามกลางเสียงไชโย โห่ร้อง พร้อมกับการโบกธงกระดาษพรรคเพื่อไทยของพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับหลายหมื่นคน ทำให้เสียงดังกระหึ่มรอบทิศทาง ไปทั่วบริเวณวัด
               น.ส. อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ได้กล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า ตนเองเคยเดินทางมาที่จังหวัดอุบลราชธานีพร้อมกับคุณพ่อ จำได้ว่า เคยติดตามคุณพ่อมาหาเสียงที่นี่ ที่อำเภอตระการพืชผล จ.อุบลฯ สมัยที่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย ดีใจที่คนอุบลฯเรายังรักกันเหนียวแน่นกันมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นครั้งต่อไป ขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ช่วยกันเลือกพรรคเพื่อไทย โดยเลือกทั้งคน ทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ อย่าแบ่งใจให้คนอื่น พรรคเพื่อไทยเรามีพรรคเดียว ไม่มีพรรคพี่ ไม่มีพรรคน้อง เราจะช่วยกันสร้างรายได้ให้กับพี่น้องชาวอุบลฯ และคนไทยทั่วประเทศ เราทำได้ และเคยทำมาแล้ว และที่จังหวัดอุบลฯ มีพืชผลทางการเกษตรดี ดังนั้น ราคาต้องดีด้วย เราจะทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรมีราคาดี แต่ต้องพัฒนาควบคู่กันไปด้วยหลายอย่าง ทั้ง พัฒนาระบบขนส่ง ถนนหนทางดี มีรถไฟที่ทันสมัย มีสนามบินดี เพื่อที่จะได้ส่งสินค้าไปขายทั่วโลก และส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย ถ้าทำได้ดังที่กล่าวนี้ จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในจังหวัดอุบลฯและพื้นที่ใกล้เคียง
                  ทางด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวปราศรัย ตอนหนึ่งว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมา สิ่งดีๆที่เคยมีก็จะกลับมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกองทุนหมู่บ้าน เรื่อง 30 บาท รักษาทุกโรค ใช้บัตรประชานใบเดียวรักษาได้ทั่วประเทศ ยาเสพติดจะต้องถูกปราบปรามอย่างเด็ดขาดในทันที วันนี้ยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง รัฐบาลจัดการไม่ได้ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยมา ทุกสิ่งดีงามที่เคยมี จะกลับมา ทั้งกองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ทั่วประเทศไทย ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี 1 อำเภอ 1 ทุน สนับสนุนลูกหลานที่ไม่มีเงินไปเรียนเมืองนอก ปราบยาเสพติดเด็ดขาดและทันที วันนี้กัญชายาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง พรรคเพื่อไทยจะกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกไปให้หมด และ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท / วัน ภายในปี 2570 ผู้จบปริญญาตรี รับเงินเดือนเริ่มที่ 25,000 บาท และจะยกระดับการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมา รถไฟความเร็วสูงก็จะมาด้วย อันไหนดีๆ ก็จะกลับมา แต่ อย่าให้พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาก็แล้วกัน ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งต่อไป ขอให้กาพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เพื่อให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ทุกนโยบายที่ประกาศเราทำได้ นายณัฐวุฒิ กล่าว.
                จากนั้น เวลา ประมาณ 14.30 น. คณะของ น.ส. อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ได้เดินทางถึง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อปราศรัยที่เวทีกลางแจ้ง โรงเรียนมัธยมเดชอุดม โดยมี นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ  ส.ส.อุบลราช ธานี พรรคเพื่อไทย เขต อำเภอเดชอุดม และ ส.ส.อุบลฯ คนอื่นๆ ร่วมให้การต้อนรับ และจากนั้น ในเวลา 18.00 น. ของวันเดียวกันนี้ น.ส. อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร พร้อมด้วยคณะ จะเดินทางมาปราศรัย ที่เวทีกลางแจ้ง บริเวณสนามศาลากลางหลังเก่า ถนนอุปราช ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ก่อนที่จะพักค้างคืนที่จังหวัดอุบลราชธานี 1 คืน เพื่อเดินทางไปปราศรัยต่อที่จังหวัดอำนาจเจริญ และ จังหวัดอื่น ในวันพรุ่งนี้