ปราจีนบุรี-พบคนกับช้างป่า..ตาย-เจ็บสาหัส วันเดียว 3 จังหวัดรวด..!

ปราจีนบุรี-พบคนกับช้างป่า..ตาย-เจ็บสาหัส วันเดียว 3 จังหวัดรวด..!

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

                 โขลงช้างป่ายิ่งออกหากิน ขัดแย้งลุกลามรุนแรง พบคนกับช้างป่า ช้างป่าตาย – คนบาดเจ็บสาหัสวันเดียว 3 จังหวัดรวด! ของผืนป่าราบต่ำผืนสุดท้าย ในเขตรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ในป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของป่าเขตรอยต่อ 5 จังหวัด จ.ฉะเชิงเทรา,จ.จันทบุรี,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง) พื้นที่แรกรอยต่อปราจีนฯ-แปดริ้ว โขลงช้างกว่า 30 ตัว(บวก)ออกหากินในป่าอ้อย ตัวสุดท้ายเตะคนคนงานตัดอ้อยสาหัสแม้พนมมือไหว้ขอชีวิต ส่วนที่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ช้างออกหากินถูกยิงตายอนาถหลังบุกสวนทุเรียน ล่าสุดฝั่ง จ.ปราจีนบุรีขณะแรงงานเขมรกว่า 60 คนกำลังตัดอ้อยถูกช้างเหยียบสาหัส 1รายบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย นำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราช จ.สระแก้ว
                เมื่อเวลา 12.45 น. วันนี้ 11 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานพบในกลุ่มไลน์ อาสาสมัครพิทักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จ.ปราจีนบุรี (ทสม.ปราจีนบุรี) โดยผู้ใช้ชื่อนายสุนทร คมคาย แกนนำนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (NGO.) /อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า /ว่าที่ผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีเขต 3 พรรคก้าวไกล โพสต์ภาพ – ข้อความ ระบุว่า … “ เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายคนงานตัดอ้อยบริเวณเขตติดต่อบ้านเขาจันทร์ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา กับ หมู่บ้านโปร่งสะเดา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ผู้บาดเจ็บเป็นคนงานตัดอ้อยผู้หญิง อาการค่อนข้างสาหัส
                นายสุนทร กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ (11ก.พ.) ได้รับแจ้ง มีคนงานเพศหญิง อายุ 70 ปี เป็นแรงงานตัดอ้อย (ชาวกัมพูชา) เพื่อส่งโรงงานหีบอ้อย ของ นายมนตรี มานะเพียร อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้วหมู่ 6 (ส.อบต.) ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้ถูกช้างป่า จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของป่าเขตรอยต่อ 5 จังหวัด จ.ฉะเชิงเทรา,จ.จันทบุรี,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง) เตะจนกระเด็น ได้รับบาดเจ็บสาหัวมีอาการเลือดออกปาก-ออกจมูก สถานที่เกิดเหตุในไร่อ้อยใกล้เชิงเขานันทา ติดกันกับสำนักสงฆ์ บริเวณเขตติดต่อระหว่างหมู่บ้านเขาจันทร์ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา กับ หมู่บ้านโปร่งสะเดา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หน่วยกู้ภัยฯนำส่งรักษาที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา
                 ก่อนเกิดเหตุ ได้รับรายงานพบ มีโขลงช้างป่า จำนวนมากกว่า 30 ตัว (บวก) เข้ามาหากินในไร่อ้อย ของนายมนตรี มานะเพียร อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้วหมู่ 6 (ส.อบต.) ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังกินอิ่มโขลงช้างได้พากันออกจากไร่อ้อย แต่ยังเหลือเพียงตัวเดียว ที่หลงเหลือยู่ พบ 2 สามี – ภรรยา กำลังนั่งพักหลังตัดอ้อยได้เดินตรงรี่ไปหา ทางภรรยาที่เห็นกะทันหัน-จวนตัวได้นั่งลงยกมือไหว้ร้องขอชีวิตแต่ช้างป่าได้เตะจนร่างลอยนอนแน่นิ่งก่อนผละเดินหนีตามโขลงไป หลังสามี –เพื่อนคนงานเห็นได้รีบแจ้งชุดผลักดันช้างป่า –หน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือนำส่ง รพ.สนามชัยเขตที่ใกล้ที่สุดโดยเร่งด่วน นายสุนทร กล่าว
                 ด้านนายธนเกียรติ ไชยราษฎร์ อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า กล่าวว่า หลังเกิดเหตุป่าไม้ ,ทหาร,ทหารพราน อาสาสมัครชุดผลักดันช้างป่า ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ โดยมีสามีผู้รับบาดเจ็บนำชี้จุดเกิดเหตุ สำหรับปัญหาช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา ที่ข้ามฝั่งข้ามมาหากินในเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี นั้นมีมานานมากกว่า 10 ปีที่ผ่านมา แต่ระยะหลัง ช้างมักยกโขลงมาครั้งละจำนวนมากกว่า 80 -200 ตัว (บวก) และ เมื่อมาหากินแล้วเมื่อชุดผลักดันเพื่อให้กลับคืนถิ่น มักไม่ยอมกลับ โดยพื้นที่ ที่ช้างป่าออกมาบ่อยครั้ง ประกอบด้วย อ.ศรีมหาโพธิ , ต.วังท่าช้าง ,ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี ทีมีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะการปลูกพืชไร่ ต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งอาหาร้างป่าอย่างดี อาทิ ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง และ ยังมีแหล่งที่อยู่เป็นป่าสวนยูคาลิปตัสของบริษัทเอกชน ที่รกร้างว่างเปล่าหลังหมดสัญญาเช่าสัมปทานจากกรมป่าไม้มากกว่า 2,000 ไร่เป็นแหล่งที่อาศัย และ จากที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยกำลังตัดอ้อยเพื่อส่งโรงงานหีบอ้อยช่วงนี้พบว่า อ้อยเหลือไม่เยอะแล้ว เพราะปีนี้ใช้รถตัดกันเยอะ แต่ ประชากรช้างป่าที่เข้ามาหากินข้ามจังหวัดเพิ่มขึ้น ๆ ไม่ลดลงเลย ”นายธนเกียรติ กล่าว
                 ขณะที่ ในไลน์กลุ่มเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า โดยผู้ใช้ชื่อ นายสุวิชาณ สุวรรณาคะ เลขานุการเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ได้โพสต์ข้อความ – ภาพ โดยเป็นภาพช้างป่าเพศผู้สีดอ ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนล้มตัวตะแคง ระบุข้อความว่า … เริ่มแล้ว..การุณฆาต ม. 6 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี “ไม่เร่งนำช้างออกจากชุมชน” ช้างป่าจะตายมากขึ้น ความล่าช้าของภาครัฐ คือ ความโหดร้ายที่สัตว์จะได้รับ

                 ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายสุวิชาญ (ผ่านทางไลน์) ทราบต่อมาว่า ช้างตายแล้ว มีรอยกระสุน ถากผิวหนังลำตัวข้างขวา ไม่น่าจะเป็นสาเหตุการตาย … รอผลพิสูจน์จากการผ่าตัด ตรวจหาสารพิษในกระเพาะอาหาร …สงสัยว่า จะโดนสารพิษ เนื่องจาก ท้องอืด และมีเลือดออกตามรูขน … โดยช้างป่าในพื้นที่มี 80-90 ตัว ได้ เสนอมาตรการเร่งด่วน..เร่งนำช้างออกจากชุมชนโดยด่วน ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ เสนอแผน ให้อธิบดีไปแล้ว

                 ด้านนาย พรชัย ชำนาญยนต์ ผญบ.หมู่ 10 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี กล่าวว่า เป็นเครือข่ายเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า หมู่บ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ได้ลงพื้นที่หลังรับทราบเรื่อง พบช้างป่าเพศผู้สีดออายุประมาณ 5 ปี ถูกยิง(เฉี่ยว)ด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสในพื้นที่ สวนทุเรียน ของเกษตรกร ม. 6 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี บริเวณช่วงขาซ้าย (ไหล่) ใกล้ใบหูนอนล้มอยู่ โดยผู้พบคือพระสงฆ์ ขณะกำลังกลับจากบิณฑบาตโปรดญาติโยมช่วงเช้าวันนี้ (11ก.พ.) ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางดึกประมาณ 21.00 -22.00 น.วานนี้ (10ก.พ.) ได้รับแจ้งมีช้างป่า จำนวน 3 – 4 ตัวออกมาหากินในพื้นที่เกษตรกรดังกล่าว โดยโขลงช้างดังกล่าวนี้เป็นช้างวัยรุ่น ประจำถิ่น ที่คาดว่าไปหากินแล้วถูกยิง ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงกัน คือ หมู่ 9 – 12 เป็นโขลงช้างขนาดใหญ่ จำนวน 80 -90 ตัว หากิน หลังเกิดเหตุแล้วได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ , เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ 1 ชุด, เจ้าหน้าที่ทหารพราน 1 ชุด ,อาสาสมัครป้องกันช้างป่า 1 ชุด,เครือข่ายได้รับผลกระทบจากช้างป่า , ผญบ. – กำนัน ในพื้นที่,สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบ่งเขต จังหวัด จันทบุรีเขต 2 (สส.) และนายสุวิชาณ สุวรรณาคะ เลขานุการเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าลงพื้นที่ เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป นาย พรชัยกล่าวในที่สุด
                 ล่าสุด ต่อมา เวลา 16.15 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสุนทร คมคาย แกนนำนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (NGO.) / อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า / ว่าที่ผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีเขต 3 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น.วันนี้ ( 11 ก.พ.) ได้รับรายงานจากเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ว่า ได้มีแรงงานเพศหญิง(ขาวกัมพูชา) ตัดอ้อยเพื่อส่งโรงงานหีบอ้อย จำนวน 2 ราย ขณะที่กลุ่มแรงงานส่วนใหญ่รวมกว่า 60 คน เป็นต่างด้าวชาวกัมพูชากำลังตัดอ้อยในไร่อ้อย เนื้อที่รวมกว่า 100 ไร่เศษ พื้นที่ หมู่ 8 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้มีช้างป่า จำนวน 1 ตัว ที่กำลังหากินในไร่อ้อย ทำร้ายเหยียบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 2 รายที่หนีไม่ทัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย อีก 1 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังเกิดเหตุชุดผลักดันช้างป่า ได้ลงพื้นที่ผลักดันช้างป่า และประสานหน่วยกู้ภัยฯนผู้รับบาดเจ็บสาหัสส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราช จ.สระแก้วที่อยู่ใกล้สุดทำการรักษา”  ในช่วงแล้งนี้ โขลงช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ยิ่งออกหากิน – ขัดแย้งลุกลามรุนแรง โดยทั้งคนกับช้างป่า ต่างรับผลกระทบทั้งคู่ มีช้างป่าตาย – คนบาดเจ็บสาหัส ในวันเดียวนี้ถึง 3 จังหวัดพร้อมกันของเขตรอบ ผืนป่าราบต่ำผืนสุดท้าย ในเขตรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ในป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของป่าเขตรอยต่อ 5 จังหวัด จ.ฉะเชิงเทรา,จ.จันทบุรี,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง) พื้นที่แรกรอยต่อปราจีนฯ-แปดริ้ว ที่โขลงช้างกว่า 30 ตัว(บวก)ออกหากินในป่าอ้อย โดยช้างตัวสุดท้ายเตะคนคนงานตัดอ้อยสาหัสแม้พนมมือไหว้ขอชีวิต ส่วนพื้นที่ ที่2 อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ช้างออกหากิน อาจจะถูกยิง หรือกินอาหาร-เป็นพิษ –วางยาพิษตายอนาถหลังบุกสวนทุเรียน แลพื้นที่ ล่าสุดฝั่ง จ.ปราจีนบุรี ที่พื้นที่ หมู่ 8 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายสุนทร กล่าวในที่สุด
                ผู้สื่อข่าว หลังจากได้รับแจ้ง ว่าช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาอ่างฤา จ.ฉะเชิงเทรา ทำร้ายแรงงานเขมร ในไร่อ้อยได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ได้ลงพื้นที่ ที่บริเวณหมู่ที่ 8 บ้านคลองตามั่น ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบกับ ร.อ.สุระ โสรักนิษฐ์ ผบ.ร้อย.ทหารพรานที่1306 จำนวน 6 นาย ชุดผลักดันช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า และ อบต.เขาไม้แก้ว ร่วมกันช่วยเหลือแรงงาน60 คน ออกจากไร่อ้อยเนื่องจากมีช้างป่า 1 ตัว เข้ามาทำร้ายได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังจากนั้นช้างป่าตัวดังกล่าวได้หนีเข้าป่าไป ขณะนี้ยังไม่มีการพบเห็นช้างป่าตัวดังกล่าวอยู่บริเวณใด หลังเกิดเหตุเจ้าของไร่นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจ.สระแก้วและได้เดินทางไปยังแคมป์คนงานของเจ๊ทินเจ้าของไร่อ้อย

                  พบ น.ส.นัยอุย อายุ 20 ปี แรงงาน(เขมร)กัมพูชาได้กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า ที่ผ่านมาได้ไปตัดอ้อย ขณะที่กำลังก้มมัดอ้อยอยู่นั้น เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นช้างตัวใหญ่มีงา จากนั้นช้างป่าตัวใหญ่มีงายาววิ่งเข้าใส่ ขณะอยู่ในกองป่าอ้อยที่กำลังตัด ทำให้ตนเองเสียหลักล้มลงกองกับพื้น จากนั้นตัวเองก็อยู่ใต้ท้องช้าง ช้างป่าตัวดังกล่าวได้ใช้งวงดันร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ที่ขอบตาด้านซ้ายและโหนกแก้ม รวมถึงได้รับบาดเจ็บบริเวณลำตัว และตนได้ยกมือไหว้ช้างเพื่อขอชีวิต และ ช้างได้ผละจากไป จากนั้นช้างป่าได้วิ่งเข้าไปไล่ทำร้ายนางทุลเพีย อายุ 40 ปี แรงงานชาวกัมพูชาเช่นกัน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เพื่อนๆตกใจและหวาดผวากลัวช้างป่าจะหวนกลับมาทำร้าย จึงโทรแจ้งเถ้าแก่ให้ทราบ เพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมาทางเถ้าแก่ได้โทรแจ้งหน่วยทหารพรานและเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือและนำตัวออกจากไร่อ้อยกลับมาที่พักและนำตัวส่งโรงพยาบาล

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!