สมุทรปราการ-“วอชด็อก”แจ้งจับต่างด้าวใช้ไม้ตีหัวสุนัขคาดอุ้มไปกิน

สมุทรปราการ-“วอชด็อก”แจ้งจับต่างด้าวใช้ไม้ตีหัวสุนัขคาดอุ้มไปกิน

ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์

              เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ร.ต.อ.อำนาจ ตะเคียนราช รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณโรงงานย่านซอยโรงน้ำแข็ง ศภาพรีชัย ถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อหาหลังฐานเพิ่มเติม ภายหลังจากมูลนิธิได้รับการร้องเรียนว่า มีแรงงานต่างด้าวใช้ไม้ทุบหัวสุนัขจนเสียชีวิต ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะนำสุนัขไปทำอาหาร ต่อมามูลนิธิได้รวบร่วมหลักฐานจากภาพวงจรปิด เข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ช่วยเร่งติดตามตัวกลุ่มแรงงานต้องสงสัย มาดำเนินคดี พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์
             ที่เกิดเหตุนอกจากะมีโรงงานแล้วบางจุดยังเป็นป่ารกทึบ และมีสุนัขจรจัดอาศัยอยู่หลายสิบตัว ส่วนที่เกิดเหตุนั้นพบว่าอยู่บริเวณต้นซอยซึ่งเป็นที่อาศัยของสุนัขชื่อกะทิ โดยกระทิ นางสาวรัตติยา เตียวตระกูล เจ้าหน้าที่วอชด็อก ให้ข้อมูลว่าเป็นสุนัขจรจัดเคยถูกรถชนจนขาพิการ ที่ผ่านมาจะมีคนรักสัตว์แวะเวียนกันมาคอยช่วยเหลือ และให้อาหารเป็นประจำ กระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ คนดูแลพบว่า กะทิหายไป จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดจาก โรงงานในย่านนั้น พบว่า มีชายสองคน คาดว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ใช้ไม้ทุบตีกะทิก่อนที่จะช่วยกันอุ้มเอากะทิออกไป หลังได้รับการร้องเรียน มูลนิธินิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ จึงรีบลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดตรงที่ที่กะทินอน ลุยเข้าป่าไปตามทางเดินป่า ที่จะไปทะลุอีกซอยหนึ่งซึ่งเป็นย่านบ้านพักคนงานต่างด้าว พบแพมเพิร์สที่กะทิใส่ และผ้าเปื้อนเลือด คาดว่าเป็นผ้าที่แรงงานต่างด้าวใช้มาอุ้มกะทิหลังจากทุบหัวกะทิจนตาย นอกจากนี้ยังพบเศษขนบนผ้า รวมทั้งพบเศษกระดูกถูกทิ้ง หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู มอบหมาย ให้พนักงานสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทีมงาน หลังจากนี้ทางมูลนิธิจะนำป้ายมาติดประกาบริเวณดังกล่าว เพื่อเตือนว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ส่วนเจากระทินั้นพบว่ามาอาศัยอยู่นานกว่า 1 ปีแล้วก่อนที่จะหายไป ทั้งนี้ตนเองก็ยังมันใจว่ากะทิถูกฆ่าก่อนที่จะถูกอุ้มไปประกอบอาหาร
                ทางด้านนางสาววรัลชญาน์ วรกุลพงศ์เลิศ พนักงานบริษัท ศรีชัย น้ำแข็ง กล่าวว่า สุนัขจรที่อาศัยอยู่ในซอยนี้เยอะมาก จนต้องประสานทางเทศบาลเข้ามาดูแลเรื่องทำหมันให้สุนัข เพื่อตัดวงจร จนปัจจุบันจำนวนสุนัขลดลง ทั้งนี้ตนเองก็คิดว่าส่วนหนึ่งมาจากการทำหมัน แต่กรณีที่มีข่าวว่ามีแรงงานต่างด้าวมาอุ้มสุนัขไปทำอาหารนั้นตนเองก็ไม่ทราบกระทั่งมีข่าว
                 เบื้องต้นหลังจากเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ตรวจสอบวงจรปิดพบว่า มีชายสองคนแบกถุงกระสอบผ่านเข้าไปภายในซอย ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าภายในเป็นสุนัขที่หายไปหรือไม่ จากนี้ได้ติดตามตัวชายทั้งสองคนที่ปรากฏในกล้องมาสอบสวน ว่ามีส่วนเกี่ยวของหรือไม่ เพื่อดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!