ราชบุรี-ระทึก..! หนุ่มป่วยจิตควบมีดจี้คอตัวเอง หน้าห้องฉุกเฉินขู่พบหมอจิตเวช

ราชบุรี-ระทึก..! หนุ่มป่วยจิตควบมีดจี้คอตัวเอง หน้าห้องฉุกเฉินขู่พบหมอจิตเวช

ภาพ-ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)

               เมื่อเวลา 18.50 น. วันที่ 5 ก.พ.66 พ.ต.ท.กฤษฏิ์ชัช โพธิ์ไพบูลย์ สวป.สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีชายใช้อาวุธมีดจี้คอตัวเอง บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินรพ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุ จึงนำกำลังจนท.ตำรวจกว่า 10 นาย พร้อมจนท.มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ราชบุรี กว่า 10 นาย เข้าระงับเหตุ พบที่เกิดเหตุ ชายวัยประมาณ 25 – 30 ปี ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ กำลังถืออาวุธมีดจี้คอตัวเอง สลับกับถือมีดชี้ส่ายไปมา พร้อมตะโกนว่า “ให้หมอมาพบกู และเอายามาฉีดให้กู และกูจะไปดีๆ” ซึ่งชายคนดังกล่าวพยามเดินไปทั่วหน้าตึกฉุกเฉินและหน้ารพ. จนจนท.ตำรวจ และจนท.มูลนิธิฯ ช่วยเกลี้ยกล่อมให้ชายคนดังกล่าวอยู่ในอาการสงบลง แต่ชายคนดังกล่าวไม่มีทีท่าจะสงบลง
               จนท.ตำรวจ จึงต้องใช้ยุทธวิธีเกลี้ยกล่อมหลอกล่อ เบนความสนใจให้ชายคนดังกล่าวเผลอ ก่อนจะมี ด.ต.เอกชัย รวมศิลป์ ผบ.หมู่ป้องกันปราบปรามเมืองราชบุรี ช่วยปฎิบัติการพิเศษ จนท.ชุดระงับเหตุ ใช้ปืนไฟฟ้ายิงเข้าที่หลังของชายคนดังกล่าว จนล้มลงก่อนจนท.จะเข้าควบคุมตัว และนำตัวเข้าไปสงบสติอารมณ์ในห้องฉุกเฉิน ก่อนจะพาตัวไปพบแพทย์จิตเวชเพื่อรักษาอาการ โดยใช้เวลาเข้าระงับเหตุเพียง 30 นาที จึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ท่ามกลางความโล่งอกของทางจนท.รพ.ราชบุรี และประชาชนที่เดินทางมาพบแพทย์
                 จากการสอบสวน นายแบงค์ ผู้ก่อเหตุ บอกว่า ตนเป็นผู้ป่วยจิตเวช และได้ขี่รถจยย.จากอ.ปากท่อ มาพบหมอที่รพ.ราชบุรี สาวนที่ตัดสินใจก่อเหตุ เพราะเครียดและโมโห ที่มาพบหมอจิตเวช และทางจนท.ให้นอนรอที่เตียงตั้งนาน แต่หมอก็ไม่มาดูอาการสักที จึงตัดสินใจใช้มีดที่พกมาก่อเหตุจี้คอตัวเอง ซึ่ง นายแบงค์ ยืนยันไม่ได้คิดจะทำร้ายใคร แต่ตอนนั้นยอมรับว่าไม่มีสติ ซึ่งตนต้องขอบคุณจนท.ตำรวจ ที่ช่วยกันควบคุมตนเอาไว้ได้ ไม่เช่นนั้นตนอาจก่อเหตุอะไรโดยไม่รู้ตัว และอยากขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้ต้องเดือดร้อน โดยเฉพาะคุณหมอจิตเวช เพราะตนไม่รู้ว่าที่มาดูอาการตนช้า เพราะกำลังตรวจคนไข้คนอื่นอยู่
                 โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ ประชาชนต่างพากันชมเชยทาง พ.ต.ท.กฤษฏิ์ชัช โพธิ์ไพบูลย์ สวป.สภ.เมืองราชบุรี, ส.ต.อ.โยธิน คำธร และ ส.ต.อ.สายชล อาวรณ์จิต ผบ.หมู่ป้องกันปราบปรามเมืองราชบุรี ตลอดจนจนท.ตำรวจ และจนท.มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ราชบุรี ทุกคน ที่ร่วมกันใช้ยุทธวิธีที่ทางจนท.ตำรวจฝึกฝนมานำมาใช้ระงับเหตุ จึงทำให้ใครไม่มีใครได้รับบาดเจ็บกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!