ปราจีนบุรี-รวบแล้ว รปภ.โหดฆ่ามัดมือ-เท้าสาว เอาผ้าห่มนวมห่อโยนศพทิ้งบ่อขยะ เหตุ รักสามเศร้า..!!

ปราจีนบุรี-รวบแล้ว รปภ.โหดฆ่ามัดมือ-เท้าสาว เอาผ้าห่มนวมห่อโยนศพทิ้งบ่อขยะ เหตุ รักสามเศร้า..!!

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

             ภาพกล้องวงจรปิดมัดตัวชัดเจนผู้ตายมาหาที่ห้องเช่า และช่วงที่ห่อศพนำขึ้นรถ จยย. ตำรวจกระจายข่าวไปทุกโรงพักไปจนมุมที่ สภ.บางไทร จ.อยุธยา ญาติพบข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อสารมวลชนเป็นห่วงเกรงถูกจับตาย ได้โทรติดต่อสอบถามผู้ต้องหา เมื่อทราบอยู่พื้นที่เขตสอบสวน สภ. วังไทร จ.อยุธยา จึงขอให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว ทางชุดสืบ สภ.ระเบาะไผ่ ได้ไปรับตัวนำมาถึงโรงพักช่วงสาย – สอบสวนเครียด ก่อนรอแถลงข่าว –ทำแผนช่วง บ่ายโมงวันนี้
              เมื่อเวลา 09.40 น.วันนี้ 4 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้า จากที่ ร.ต.ท.ศุภกิตติ์ กาศอุดม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ระเบาะไผ่ ว่ามีผู้พบศพคนเสียชีวิตอยู่ที่ บ่อขยะแถวบ้านระเบาะนา หมู่ 4 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แจ้งแพทย์ แจ้งเจ้าหน้าที่ พฐ.จว.ปจ. พร้อมกับพวกเดินทางออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ
พบศพ ไม่ทราบชื่อ มีผ้าห่มม้วนศพไว้ เมื่อแพทย์และเจ้าหน้าที่ พฐ.จว.ปจ. มาถึงที่เหตุเกิดจึงได้ให้เจ้าหน้าที่กูภัยเปิดผ้าห่อออก เพื่อร่วมตรวจชันสูตร กับแพทย์ แจ้งเจ้าหน้าที่ พฐ.จว.ปจ. สภาพศพอยู่ในสภาพนอนตะแคงไปทางด้านขวา เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 40 ปี สภาพศพห่อด้วยผ้านวมสีเหลือง สวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์หลุดลงไปเกือบถึงหัวเข่า กางเกงในสีดำ ตามร่างกายไม่พบเอกสารรวมทั้งบาดแผลแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 4-5 วัน ในบ่อทิ้งขยะ หมู่ที่ 4 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ผู้ตายถูกเชือกฟางสีขาวมัดที่บริเวณข้อมือและข้อเข่าด้วยเชือกเส้นเดียวกัน เบื้องต้นตามร่างกาย มีหนอนขึ้นตามร่างกาย ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และร่องรอยการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ
             หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปจ. ,พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ ลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีอย่างใกล้ชิด จนทราบตัวคนตายคือน.ส.กตชภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้เสียชีวิต มีการแจ้งคนหายไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าแล้วนำศพหญิงสาวที่ถูกมัดมือ –เท้า ห่อศพด้วยผ้าห่มนวมถูกนำมาโยนทิ้งที่บ่อขยะท้ายหมู่บ้านระเบาะนาหมู่ 4 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ โดยผู้ต้องหาผู้ก่อเหตุคือ นายพิษณุ หรือ บอย โมหจิตร อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 498 หมู่ 8 ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ซึ่งทำงานเป็น รปภ.ในโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ พื้นเพเป็นชาว จ.สุโขทัย เพิ่งพ้นโทษจากคดีฆ่าอดีตภรรยาเสียชีวิต พ้นโทษเมื่อปี2564 แล้วมาหางานทำที่ย่านนิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมาโพธิ แล้วได้รู้จักผ่านทางเฟสบุ๊คจากนั้นคบหากันกับผู้ตายได้ราว 1 ปี โดยก่อนหน้านั้นผู้ตายได้คบหาอยู่กินกันกับน.ส.ปิยวรรณ ผู้ที่เคยมาแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ระเบาะไผ่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ม.ค.66 ที่ได้ระบุว่า ตนได้อยู่กินฉันสามีภรรยา กับ น.ส.กตชภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้เสียชีวิต โดยคบกันและอยู่ด้วยกันมาประมาณ 12 ปี
              ต่อมาทางทีมชุดสืบสวนฯได้ไปค้นที่ห้องเช่าผู้ต้องหา ได้หลักฐาน ภาพล้องวงจรปิด เป็นภาพช่วงเย็น-หัวค่ำวันที่ 26 ม.ค.66 ก่อนวันที่ผู้ตายจะหายออกมาจากบ้านพักเข้ามาหาผู้ต้องหาที่ห้องเช่า และ ภาพในวันรุ่งขึ้น (27ม.ค.66) ได้ภาพกล้องวงจรปิดช่วงที่คนร้ายบรรทุกศพคนตาย ที่ถูกฆ่าตายนำขึ้นรถ จยย.ที่พันห่อด้วยผ้านวมผืนที่พบในที่เกิดเหตุออกจากห้องเช่า นำไปทิ้งที่บ่อทิ้งขยะที่อย่างจากห้องเช่าประมาณ 5 กม.เศษ และ คนร้ายไป คาดว่าได้หลบหนีหลังก่อเหตุ และจากการตรวจสอบภายในห้องเช่าของผุ้ก่อเหตุโดยละเอียด พบรถ จยย.ของผู้ตายยังจอดอยู่ในห้องเช่า พร้อมร่องรอยและหลักฐานเกี่ยวกับการฆาตกรรมผู้ตายซึ่งได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าคนก่อเหตุได้ลงมือฆ่าผู้ตายในห้องพัก สาเหตุมาจากความหึงหวงที่ผู้ตายที่มีทอมเป็นคู่รักอยู่อีกคน ในวันนี้ 3 ก.พ.66 ได้ขอหมายจับกุมนายบอยผู้ก่อเหตุ จากศาลจังหวัดปราจีนบุรี ในข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและทำการซ่อนเร้นอำพรางศพ ต่อไป ส่วนคนร้ายนั้น ทางทีมสืบสวนภาค2- จว.ปจ.ได้เร่งติดตามอย่างเร่งด่วน พร้อมติดตามกล้องวงจรปิดจากจุดเริ่มต้นก่อเหตุไปตลอดที่โยนศพทิ้งต่อไปส่วนศพผู้ตายนั้นญาติได้นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดเนินผาสุกผลาราม (วัดหนองกาน้ำ) ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ โดยก่อนพิธี ญาติได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญวิญญาณผู้ตายที่บ่อขยะท้ายหมู่บ้านระเบาะนาหมู่ 4 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จุดที่ศพถูกนำมาทิ้งกำหนดทำการฌาปนกิจศพในวันที่ 6 ก.พ.66 นี้ ตามรายละเอียดที่นำเสนอก่อนหน้านี้ นั้น
             คืบหน้า ล่าสุด พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางไทร จ.อยุธยา ได้จับกุมผู้ต้องหา นายพิษณุ หรือ บอย โมหจิตร อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 498 หมู่ 8 ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย กลางดึกวานนี้ (3 ก.พ.)ระหว่างหลบหนี พร้อมรถ จยย. และประสานมาที่ สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จึงจัดชุดสอบสวนมารับตัวพร้อมนำตัวพร้อมยานพาหนะ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าสีส้มไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของผู้ต้องหา มาสอบสวนที่ ห้องสืบสวน สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ โดยเบื้องต้นหลังถูกจับกุมระหว่างหลบหนี ญาติพบข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อสารมวลชนเป็นห่วงเกรงถูกจับตาย ได้โทรติดต่อสอบถามผู้ต้องหา เมื่อทราบอยู่พื้นที่เขตสอบสวน สภ. วังไทร จ.อยุธยา จึงขอให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว และติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นทางผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยังไม่ให้การใดๆ คาดว่าจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่ก่อเหตุถึงวิธีฆาตกรรมที่หอพัก วิธีการ –ยานพาหนะหลบหนี และ ที่จุดทิ้งโยนศพบริเวณบ่อทิ้งขยะบ้านระเบาะนาหมู่ 4 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ ต่อไป

ผู้การ-ผกก. พร้อมชุดสืบสภ.ระเบาไผ่ –ทีมสืบ ภูธรจังหวัด – ภาค 2 ร่วมแถลงข่าว..!

เมื่อเวลา 14.00น.วันนี้ 4 ก.พ.66 ที่สภ. ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภจว.ปราจีนบุรี และ รองฯ พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ พร้อมทีมสืบสวน สภ.ระเบาะไผ่ ,ทีมสืบตำรวจภูธร ภ.จว.ปราจีนบุรี – ภาค 2 ร่วม แถลงข่าวคดีฆ่า นส.กตชภรณ์(แอ๋ว)กุ่มประสิทธิ์ โดยชุดสืบสวนภาค2กก.สส.ภจว.ปราจีนบุรี ,ทีม สืบสวน สภ.ระเบาะไผ่ ได้ร่วมจับกุมตัวนายพิษณุ หรือ บอย โมหจิตร อายุ 33ปี บ้านเดิมเป็นชาวอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัยได้ จากการค้นประวัติคดีอาชญากรรมทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุฆ่าคนตายในพื้นที่สภ.บางบัวทอง จ.ปทุมธานี พ้นโทษออกมาเมื่อเดือนสิงหาคม 63 ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดปราจีนบุรี และ ได้รับอนุมัติหมายจับที่ จ11/2566 ลงวันที่ 3ก.พ.66ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและรอบฝังซ่อนเร้นเคลื่อนย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบัง
            เบื้องต้นไอ้บอยรับสารภาพว่า ก่อนลงมือก่อเหตุเสพยาบ้าก่อนฆ่า หลังทราบฝ่ายหญิง-ทอม ได้ขอให้ตนเอง –ฝ่ายหญิง(คนตาย)ปฟรตนเองเลิกมีสัมพันธ์ชู้สาว จึงบีบคอฝ่ายหญิงตายคาห้องเช่า หลังฝ่ายหญิงมาหาที่ห้องเช่า หลังผู้ตาย ตายแล้ว วันรุ่งขึ้นได้ขนย้ายศพพันห่อปกปิดด้วยผ้าห่มนวมที่ฝ่ายหญิงซื้อให้นำขี่-บรรทุกใส่หน้ารถ จยย.นำมาทิ้งบ่อขยะ แล้วหลบหนีก่อนถูก ตร.อยุธยาจับกุม ตร.พร้อมกำลังกว่า 50 นายนำมาทำแผน เริ่มที่ห้องลงมือฆ่า วิธีลงมือบีปคอ การนำห่อผ้าห่ม นวมบรรทุกรถ จยย.มาทิ้งบ่อขยะประกอบคำรับสารภาพ ขณะญาติ พี่ชาว –แม่ –หลานชายของสาวคนตาย ขอให้ลงโทษประหารชีวิต ตายตามกันเพราะคนก่อเหตุเป็นภัยสังคม ระบุก่อนหน้าเคยกระทำผิดแบบเดียวกันเคยฆ่าอดีตอดีตภรรยา จนเสียชีวิตมาก่อน ขณะศพคนตาย จะเผาพรุ่งนี้ (5ก.พ.) ที่วัดเนินผาสุกผลาราม (วัดหนองกาน้ำ) ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ ก่อนหน้าได้ตั้งบำเพ็ญกุศลเมื่อวันที่ 3 ก.พ.
              หลังแถลงข่าวเสร็จ ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผน เพื่อประกอบคำรับสารภาพโดยนำขึ้นรถตู้ไปตามจุดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จุดแรกบริเวณที่เกิดเหตุที่ห้องเช่าของนายผู้ต้องหา ที่ลงมือสังหารแฟนสาว ให้แสดงวิธีการ –การซ่อนใส่ผ้าห่มนวม –ขนย้ายศพโดยรถ จยย. ก่อนนำไปต่อที่จุดทิ้งโยนศพที่บ่อขยะร้าง ห่างจากห้องเช่าไกลกว่า 5 กมเศษ โดยมีญาติผู้เสียชีวิตและบรรดาไทยมุง 30 คน มาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพหวิดถูกญาติผู้เสียชีวิตรุมประชาทัณฑ์ตำรวจจึงรีบนำตัวขึ้นรถตู้แล้วเดินทางกลับ
             โดย นางวันดี กุ่มประสิทธิ์อายุ 82 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอย่างรวดเร็ว-รัดกุมจนจับกุมคนร้ายได้ คนร้ายที่ลงมือฆ่าลูกสาวบอกถึงว่า ไม่ได้รักลูกสาวตนเลย ถ้าหากว่ารักอยู่ ไม่เจตนาจะทำแล้วคนจะตายได้ยังไง คนเหมือนกันทำกัน ทำ ทำไมลูกผู้หญิง มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย อยากให้ ตำรวจ ดำเนินคดีติดคุกตลอดชีวิตไปเลยหรือให้ตายตกไปตามกัน หากจะมาขอขมาศพ เป็นไปได้จะไม่ให้มาใกล้เลย เพราะเขาใจดำ ไม่อยากให้มาขอขมา หลังตายวิญญาณลูกสาวมาเข้าฝันลูกสะใภ้ ลูกสะใภ้บอกว่า พี่แอ๊ว(ลูกสาว)แต่งตัวสวย โดยจะเผาพรุ่งนี้ (5ก.พ.) ที่วัดเนินผาสุกผลาราม (วัดหนองกาน้ำ) ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ ก่อนหน้าได้ตั้งบำเพ็ญกุศลเมื่อวันที่ 3 ก.พ. นางวันดี กล่าว
          หลังอาหายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 29 ม.ค.66 ตอน เวลา 20:21 น.มีตุ๊กแกมาร้องทัก 3 ครั้ง ปกติไม่เคยมีตุ๊กแก และหลังจากไปเซเว่นแล้วเข้าบ้านมา นอนหลับๆอยู่ ต่อเวลา1:10 น ได้ยินเสียง ที่คุ้นมาก และจำได้ ว่าเสียงอา เรียกว่า”แม็คแม็ค “2 ครั้ง แล้วมานั่งร้องโหยหวน ข้างๆ แบเจ็บปวด ย่าที่นอนใกล้ก็ได้ยินพร้อมกัน ย่าบอกว่า แม็กเปิดลำโพงไว้เหรอ บอกว่าไม่ได้เปิดลำโพง ย่าบอกดูสิ ก็ไม่เห็นใคร ปิดไฟแล้วอาก็มาอีกเห็นลาง ๆ ที่ปลายเท้านั่งร้องแบบเจ็บปวด โหยหวนแบบเจ็บปวดมากอีกรอบ ย่าบอกว่า แม่รู้แล้วว่าตาย ดีแล้วที่เอ็งมาบอกแม่ก่อน ก่อนจะหายไป อาบอกว่าจะไปแล้วนะ “ไอ้ขี้โรค” (เป็นชื่อที่อาชอบเรียกเพราะป่วยบ่อย) อารักมึงนะ แล้วก็หายไปเลย แต่อาชอบเรียกว่าขี้โรคเพราะตอนเด็กป่วย นายฉัตรชัยกล่าว

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!