ศรีสะเกษ-ปิดตำนานพระพ่นไฟ ไล่ผี มนต์ดำ

ศรีสะเกษ-ปิดตำนานพระพ่นไฟ ไล่ผี มนต์ดำ

ภาพ-ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่วัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นวัดที่เคยมีข่าวโด่งดังว่า พระครูวัชรชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อสมเพชร เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ได้ใช้วิธีการพ่นไฟไล่ผีและรักษาโรคต่าง ๆ เนื่องจากชาวบ้านอ้างว่าโดนคุณไสย มนตร์ดำ ไปเข้ารับการรักษาจากทางแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว แต่ก็ไม่หายจึงเดินทางมาให้หลวงพ่อเพชรช่วยรักษา โดยวิธีการพ่นไฟ ซึ่งหลวงพ่อเพชรอ้างว่าเป็นวิชาที่ได้รับถ่ายทอดมาจากหลวงปู่สรวง ครูบาอาจารย์ พระเกจิอาจารย์ ที่นับถือและศึกษาเล่าเรียนวิชามาเป็นผู้ถ่ายทอดประสาทวิชาให้ เพื่อเอาไว้ใช้ช่วยรักษาคนที่ถูกของไสยศาสตร์มนตร์ดำโดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการจะให้ผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษานอนหงายบนแคร่ ก่อนจะใช้แป้งมันสิงคโปร์ และแป้งข้าวเหนียวผสมกัน นำเอาไปนวดบนหน้าท้องของผู้ป่วยทั้งหญิงและชาย พร้อมท่องคาถาเสมือนให้แป้งดังกล่าวทำหน้าที่ดูดคุณไสยมนตร์ดำ หรือสิ่งไม่ดีที่อยู่ในร่างกายของผู้ป่วย เสมือนเป็นการใช้ไฟปัดเป่าภูตผีวิญญาณร้ายที่สิงสถิตอยู่ในร่างกายของคน ให้หลุดพ้นออกจากร่างกายของผู้ป่วย ต่อมา มีประชาชนร้องเรียนพฤติกรรมดังกล่าวว่าไม่เหมาะสม ผิดหลักของพระพุทธศาสนา เพราะพระไม่สมควรประกอบพิธีกรรมที่ถูกเนื้อต้องตัวญาติโยม ซึ่งต่อมา พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) พร้อมด้วย พระครูใบฏีกาพรชัย จันทโก เจ้าคณะตำบลไพรพัฒนาและตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ โดยคณะสงฆ์ อ.ภูสิงห์ ได้สั่งให้หลวงพ่อเพชร หยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว เนื่องจากว่าหลวงปู่สรวงท่านไม่เคยสอนวิธีการรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการแบบนี้แต่อย่างใด ซึ่งหลวงพ่อเพชรยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของคณะสงฆ์ โดยการหยุดพ่นไฟรักษาโรคต่าง ๆ แล้ว

              ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 65 ที่วัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมี จ.อ.สมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการประกอบพิธีมอบตราตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร โดยมีการประกอบพิธีทางศาสนา พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จากนั้น เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ได้ประกอบพิธีมอบตราตั้งให้ พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร และมอบตราตั้งคณะกรรมการวัดและไวยาวัจกรวัดป่าพลาญเพชร รวมจำนวน 25 คน โดยมี พระครูสิริวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ (ธ.) พระครูสิริรัตนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอกันทรลักษ์ (ธ.) เจ้าคณะอำเภอขุนหาญ (ธ.) เจ้าคณะอำเภอเบญจลักษ์ (ธ.) พร้อมด้วยคณะสงฆ์ธรรมยุต ชาวบ้านโคกแดงและหมู่บ้านใกล้เคียง มาร่วมพิธีครั้งนี้จำนวนมาก
               พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ.) กล่าวว่า ด้วย พระครูวัชรชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อเพชร เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้ลาสิกขา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 ที่ผ่านมาแล้วนั้น จึงทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง อาศัยอำนาจตามความในข้อที่ 27 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2535) จึงแต่งตั้งให้ พระครูโกสลสิกขกิจ ฉายา วายาโม (อาจหาญ)อายุ 64 พรรษา 37 วิทยฐานะ น.ธ. เอก,ป.ตรี วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันมีตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ เป็นเจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธรรมยุต) ดำรงตำแหน่ง ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร (บ้านโคกแดง) ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าอาวาส ตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ที่ 20/2565 เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาการแทนเข้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร แต่งตั้ง ณ วันที่ 12 พ.ย. 2565 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป
               พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา และรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ซึ่งเป็นศิษย์เอกผู้รับมรดกธรรมของหลวงปู่สรวง และเป็นพระที่มีความกตัญญูเป็นเลิศ ได้กล่าวว่า เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร รูปเดิม ได้ลาสิกขาแล้ว พระเดชพระคุณเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) จึงได้มีบัญชาแต่งตั้งให้อาตมาภาพมารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ซึ่งอาตมาภาพได้แต่งตั้งคณะกรรมการวัด จำนวน 23 คน มีหน้าที่ช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์และช่วยเหลือกิจการของวัด และไวยาวัจกร จำนวน 2 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือวัดในการดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัดตามที่เจ้าอาวาสมอบหมาย ซึ่งคณะกรรมการวัดที่ได้รับแต่งตั้ง เป็นผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านโคกแดง โดยให้กรรมการและไวยาวัจกรร่วมกันทำการตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ทุกอย่างของวัด ตู้รับบริจาคเงินต่าง ๆ นำมาจัดทำเป็นบัญชีให้เป็นระบบระเบียบเรียบร้อย ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารจัดการวัดป่าพลาญเพชร เป็นไปตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และแก้ไขเพิ่มเติมรวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
               ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การที่พระครูวัชรชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อเพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้ลาสิกขา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 ที่ผ่านมานั้น นับว่าเป็นการปิดตำนานพระพ่นไฟรักษาโรคแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย เนื่องจากว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เคยสอนพระสงฆ์ให้ใช้วิธีการแบบนี้ในพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!