เพชรบุรี-พบทุจริต..!!ในเครดิตยูเนียนหนองจอก 80 ล้านบาท สมาชิกรวมตัวเรียกร้องให้จ่ายปันผล..!!

เพชรบุรี-พบทุจริต..!!ในเครดิตยูเนียนหนองจอก 80 ล้านบาท สมาชิกรวมตัวเรียกร้องให้จ่ายปันผล..!!

"หลังสหกรณ์ฯแจ้งว่าปีนี้ขาดทุน"

ภาพ-ข่าว-นายสุรพล นาคนคร

            สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนหนองจอก จ.เพชรบุรี รวมตัวกันเรียกร้องให้สหกรณ์ฯ พิจารณาจ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกตามกำหนด หลังจากเกิดกรณีทุจริตภายในสหกรณ์ฯ 80 ล้านบาทระบุ การขาดทุนเกิดจากการทุจริตไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน
            ความคืบหน้าหลังเกิดการทุจริตขึ้นภายในสหกรณ์เครดิตยูเนียนหนองจอก จ.เพชรบุรี ทำให้ทางสหกรณ์ฯไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกฯได้ เนื่องจากทางบัญชีต้องตั้งหนี้เผื่อจะสูญเต็มวงเงิน ทำให้สมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่ไม่พอใจ เพราะเชื่อว่าการขาดทุนเกิดจากการทุจริตและผู้ทำการทุจริตทั้ง 8 คน ก็ยอมรับสารภาพแล้ว ไม่ควรโยนภาระให้กับสมาชิกฯโดยการไม่จ่ายเงินปันผล จนทางผู้ตรวจบัญชีสหกรณ์และประธานสหกรณ์ฯต้องออกมาชี้แจงและทำความให้ใจให้กับสมาชิกฯที่ไม่เข้าใจว่า เป็นการขาดทุนทางบัญชี ไม่ใช่เป็นการขาดทุนจากผลการประกอบการ
            สายวันนี้ 28 พ.ย.65 ที่สหกรณ์เครดิตยูเนียนหนองจอก ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้มีสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนจำนวนหนึ่งได้เดินทางมาชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้กับสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี และประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนหนองจอก กรณีที่เกิดการทุจริตเกิดขึ้นในสหกรณ์ฯ จนทำให้ทางสหกรณ์ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกได้ โดยมีแกนนำคือ นางกัญกฤษ โชติภัคภิญญา นางอัญภรกานต์ สังวาลเพชร และนายวัลลภ ศรีทอง โดยตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ฯได้เรียกร้องให้สหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี และประธานสหกรณ์ฯ ลงมารับหนังสือและดำเนินการตามคำเรียกร้อง ต่อมาผู้แทนสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี และประธานสหกรณ์ฯได้ลงมารับหนังสือและทำการขี้แจงสร้างความเข้าใจว่า ในกรณ๊มีการทุจริตเกิดขึ้น ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ดำเนินการตามขั้นตอนทุกประการโดยเร็ว แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานและหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับผู้ใดบ้าง
             ผู้แทนสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรีขี้แจงว่า ได้ชี้แจงไปในวันประชุมใหญ่วิสามัญไปแล้วว่า ในการทุจริตที่เกิดขึ้น ในทางบัญชีการตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญ ต้องตั้งเต็มจำนวนที่มีการทุจริตไป จนกว่าจะได้เงินคืนมา ทีนี้ในทางบัญชี การตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญ ถือเป็นค่าใช้จ่าย เมื่อมีค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ สหกรณ์จึงขาดทุน เมื่อสหกรณ์ขาดทุนจึงไม่สามารถจัดสรรกำไรสุทธิได้ ที่มามันเป็นแบบนี้ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ เช่น กรณีทราบว่าทุจริตไป 45 ล้าน ก็จะต้องตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญไว้ 45 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่าย ดังนั้นเมื่อค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ เราจึงขาดทุน พอเราขาดทุน จึงไม่สามารถนำมาจัดสรรเงินปันผลได้ ซึ่งถ้าภายในธันวานี้ สามารถเรียกเงินคืนได้หมด นั่นแหละจึงจะถือว่ามีกำไร
             ณ วันนี้สหกรณ์เรามีเงินทุนอยู่กว่า 700 ล้านบาท แต่ทุจริตเหตุเกิดน่าจะประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งคุ้มครองมูลค่าสูงมาก ณ วันนี้ มีการถอนเงินฝากแล้วประมาณ 60 ล้าน เรามีเงินฝากอยู่ประมาณ 300 ล้าน ฉะนั้นกรรมการไปหาเงินมาโดยการไปกู้ที่อื่นมาเพือ่มาเสริมสภาพคล่อง ที่ต้องเสริม เพื่อใครมาถอนเงินฝากก็จะได้เงินฝากคืน มันมีลำดับคิว ซึ่งเงินส่วนใหญ่จะอยู่ที่สมาชิกที่กู้ไปซึ่งยังไม่หมดสัญญาจึงยังเรียกเงินคืนมาไม่ได้ เรามีทุนสำรองอยูประมาณ 45 ล้านบาท ทุนสำรองจะใช้ได้ต่อเมื่อสหกรณ์เราขาดทุน กรณีนี้สหกรณ์เราขาดทุน จึงได้โอนทุนสำรองไป (เป็นทางบัญชี ไม่ใช่ตัวเงิน) ซึ่งปีนี้คำนวณแล้วเราจะมีขาดทุนสะสมตั้งไว้ประมาณ 80 ล้าน เราจึงโอนทุนไปอีกประมาณ 37 ล้าน รวมเงินทุนสำรองที่เรามีอยู่อีก 45 ล้าน แล้วเรายังมีรายได้ระหว่างปีอีก เพื่อให้ปีนี้จบเลย การแก้ไขปัญหาขาดทุนสะสมจะไม่มี ปีหน้าเข้าสู่กระบวนการเริ่มต้นดำเนินงานก็จะเป้นไปตามปกติ กรณีการขาดทุนก็จะจบในปีนี้ ส่วนเรื่องคดี ถ้าพร้อมแล้ว เรียกทรัพย์สินได้เท่าไรก็จะถือว่าเป็นรายได้เข้ามาตามปกติของสหกรณ์ก็จะได้เพิ่มเข้ามา ถ้าเราสามารถเรียกหนี้ที่เสียหายได้เข้ามาก็จะมีรายได้เพิ่มเข้ามา การตัดสินใจของคณะกรรมการ ต้องใช้การตัดสินใจตามหลักกฎหมาย เพราะคณะกรรมการจะต้องรับผิดชอบ

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!