ปราจีนบุรี-วันสืบชะตาสายน้ำ”พระปรงต้องรอด”

ปราจีนบุรี-วันสืบชะตาสายน้ำ”พระปรงต้องรอด”

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ-ข่าวทองสุข-ฉลองรัตน์

              วันนี้ 18 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวจ.ปราจีนบุรัรายงานว่าที่หมู่บ้านหนองหอย หมู่ที่ 4 ต.วังตะเคียนอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานในพิธีกิจกรรมสืบชะตาสายน้ำ “พระปรงต้องรอด” จัดโดยเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ เครือข่ายสภาองค์กรชุมชน และภาคประชาคมจังหวัดปราจีนบุรี

              ในฐานะผู้จัดกิจกรรมและเข้าร่วมงานจัดกิจกรรมสืบชะตาสายน้ำ “พระปรงต้องรอด” ด้วยปณิธานของประชาชน กลุ่มองค์กรชุมชน และภาคส่วนต่างๆ ต้องการใช้ชีวิตในร่มน้ำพระปรงอย่างปลอดภัยปราศจากมลพิษมีสายน้ำที่ตอบสนองต่อการอุปโภค บริโภค สายน้ำที่อุดมด้วยสัตว์น้ำ และพืชพันธุ์ธัญญาหาร โดยไม่อยากให้มีปรากฏการณ์น้ำเสีย กุ้งหอย ปู ปลา สัตว์น้ำตาย และเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกอันเป็นผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้รับการแก้ไขฟื้นฟู โดยมีปณิธานรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยร่วมกันโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้  เพื่อสืบทอดอุดมการณ์ รักษ์ลุ่มน้ำพระปรงจากรุ่นสู่รุ่นภายใต้เจตนารมณ์ “พระปรงต้องรอด” ร่วมกันออกแบบเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
             กิจกรรมสำคัญประกอบด้วย การล่องแพสำรวจสายน้ำ พิธีสืบชะตาสายน้ำพระปรง การปล่อยปลา กิจกรรมโยนจุลินทรีย์ (EM Ball)กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี และนายกสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานประมงจังหวัดปราจีนบุรี ที่สนับสนุนพันธุ์ปลา สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 7 (สระบุรี) ที่สนับสนุนน้ำหมักชีวภาพ องค์การบริหารส่วนตำบลวังตะเคียน ฝ่ายปกครองผู้นำท้องถิ่นท้องที่ตลอดจนผู้ปกครองและเด็กนักเรียน สภาวัฒนธรรมอ.กบินทร์บุรี ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
              นายพงษ์สิทธิ์ กล่าวว่าสืบเนื่องจาก​ลุ่มน้ำคลองพระปรง​ คือต้นน้ำสำคัญที่รองรับน้ำจากคลองพระสทึง ที่ไหลมาจากป่าเขาสอยดาว​ จังหวัดจันทบุรี​ และรับน้ำที่มาจากจังหวัดสระแก้ว​ บรรจบกันที่บ้านปากน้ำหนองหอยแห่งนี้​ และไหลไปบรรจบกับแควหนุมาน​ ก่อเกิดเป็นต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี อันเป็นเสมือนเส้นเลือดสายหลักหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในภาคตะวันออก มาช้านาน​ ตั้งแต่บรรพบุรุษที่ได้ใช้แม่น้ำสายนี้เพื่อการดำรงชีวิต​ มีข้าว​ มีปลา​ มีอาหารมากมายที่เกิดจากสายน้ำแห่งนี้​ และเครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำพระปรงได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่าจะร่วมมือกับภาคีเครือข่ายปกป้องคุ้มครองแม่น้ำพระปรงอันเป็นที่รักและหวงแหนของพี่น้องกบินทร์บุรี​ เพื่อจะได้ส่งต่อความอุดมสมบูรณ์ไว้ให้กับลูกหลานได้หาอยู่หากินสืบต่อไปจึงกระตุ้นจิตสำนึกในการอนุรักษ์ร่วมกัน ที่จะดูแลด้านอุตสาหกรรมในการไม่ปล่อยน้ำเสีย-สร้างมลพิษ ภาคการเกษตร ชุมชนบ้านเรือนไม่ทิ้งขยะสร้างมลพิษ หลังภาวะน้ำหลากที่น้ำลดตัวรวดเร็ว จนตลิ่งทรุดตัว ได้มีกิจกรรมภายในงาน​ มีการเจริญพุทธมนต์​ ทอดผ้าป่าบังสุกุลอุทิศ​ และถวายภัตตาหารเพล การล่องเรือชมแม่น้ำพระปรง ดูผลกระทบตลิ่งทรุดตัวหลังน้ำลด การขอขมาพระแม่คงคาและ ลอยกระทง การปล่อยปลาและโยนก้อนอีเอ็มเพื่อปรับสภาพน้ำ นายพงษ์สิทธิ์กล่าว

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!