นนทบุรี-พ่อร้องทนายรณณรงค์..ลูกสาววัย 5 ขวบถูกนายจ้างละเมิดทางเพศ..จ่ายแค่ 2 พัน..!!

ภาพ-ข่าว:สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ

            เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 18 พ.ย.65 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะต.บางพูด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี นายเดชวัฒน์ เดชบุรัมณ์ อายุ 36 ปี พ่อเด็กพร้อมด้วยญาติเดินทางเข้าขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณณรงค์คืนความยุติธรรมในสังคมถูกนายยุทธการ หรือตู่ วีรพรรณ์ อายุ 63 เป็นนายจ้างของตนล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงเอนามสมมุติวัย5 ขวบ ซึ่งลักษณะอวัยวะเพศบวมแดงโดยนายจ้างได้ให้เงินจำนวน2,000บาทเพื่อจะให้จบคดีทางยายของเด็กหญิงเอได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเรียบร้อยแต่ทางป้าของเด็กไม่ยอมเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเบา เหตุเกิดที่บ้านพักของนายตู่ เลขที่ 120/36 ซ.68 ซ.บรมราชนนี 70 ถนนบรมราชชนนีแขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.วันที่ 12 มี.ค.65 เวลาประมาณ 19.00น.แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลธรรมศาลา
             น.ส.วรีรัตน์ วงศ์วิเศษกิจ อายุ 53 ปี ป้าเด็ก เล่าว่า วันที่ 12 มี.ค.65 เวลาประมาณ 17.00 น. พ่อเด็กไปรับจ้างตัดกล้วยที่บ้านผู้ก่อเหตุและพาลูกไปทำงานด้วย จึงฝากผู้ก่อเหตุเลี้ยงดู ซึ่งน้องเอเคยโดนกระทำลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง โดยครั้งแรกคือตนไม่รู้ จนกระทั่งมารู้ครั้งที่ 2 เพราะว่าเด็กมาเล่าให้ยายฟังขณะที่คุณยายอาบน้ำให้ตอนเย็นแล้วเห็นอวัยวะเพศบวม มีเลือดซึม ยายจึงสอบเด็กก็เล่าให้คุณยายฟังว่า แต่เด็กเล่าว่าโดนทั้งเอานิ้วสอดใส่และให้ไปนั่งทับอวัยวะเพศด้วย เขาโดนข่มขืน เด็กบอกว่าผู้ก่อเหตุจับถอดกางเกง กอดหอม และเอานิ้วสอดใส่อวัยวะเพศ และให้ไปนั่งทับอวัยวะเพศ โดยเด็กบอกว่าเขาเจ็บ และร้องไห้ อวัยวะเพศเขาบวมแดงคล้ายมีเลือด เลยถ่ายรูปไว้ วันต่อมาคือวันที่ 13 มี.ค.65 ยายไปเดินทางไปบ้านผู้ก่อเหตุเจอเมียเขา และบอกว่ารับผิดชอบและพาไปหาหมอ พอไปถึงโรงพยาบาล หมอบอกว่าถ้าตรวจและรักษาเรื่องจะต้องถึงตำรวจทางผู้ภรรยาผู้ก่อเหตุจึงไม่ยอมให้ตรวจร่างกาย แล้วยายก็ไม่เล่าให้ตนฟัง ปิดเงียบไว้ กลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ทางฝั่งผู้ก่อเหตุก็ถามว่าจะเรียกเงินเท่าไหร่ ซึ่งยายก็ไม่รู้เรื่องเลย เรียก 10,000 บาท เขาบอกไม่มี ยายจึงบอก 5,000 บาท ผู้ก่อเหตุก็ถามว่าจะหากินกับเด็กหรอ มีเงินเพียง 2,000 บาท จะให้แค่นี้ ทางยายก็รับมาคิดว่าไม่มีอะไร โดยยายปิดบังตนมาตลอด

             จนถึงวันที่ 21 มี.ค.65 เด็กไปเล่นที่บ้านตนแล้วเล่าให้ฟังตนจึงพาเด็กไปตรวจร่างกายในวันที่ 23 มี.ค.65 ซึ่งมันผ่านไป 10 กว่าวันแล้ว ผลตรวจก็ออกมาว่ามีร่องรอยบาดแผลฉีดขาดที่เหนื่อพรหมจารี แต่ไม่พบตัวอสุจิ ตามเอกสารที่ตนปริ้นท์มาให้ทนาย ทางตนก็นำเอกสารไปแจ้งความที่ สน.ธรรมศาลา ในวันที่ 24 มี.ค.65 ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้มีโทรไปสวัสดิการเด็กและสังคม หลังจากนั้นหน่วยงานเขาเลยโทรมาหายาย ทางยายก็ไม่ยอมรับปิดบัง ตนเลยรับโทรศัพท์ไปถามแทนและรู้เรื่องว่าเกิดเรื่องนี้ จึงให้ยายไปแจ้งความที่สน.ธรรมศาลา ยายไปตำรวจก็ไม่ยอมรับแจ้งความ ให้ลงบันทึกประจำวันเฉยๆ ตนเลยไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นตำรวจ ขอความช่วยเหลือเขาว่าจะทำยังไงดี ตำรวจก็เลยโทรไปหาเพื่อนที่เป็นรองผู้กำกับสอบสวนอยู่ที่ สน.ธรรมศาลา โทรไปฝากเรื่อง เขาก็ยังไม่รับและเลยถามซ้ำ และโทรไปหาผู้กำกับเลยเขาก็ช่วยดูให้ พอทำผลดำเนินคดีก็ไม่คืบ พอตนให้เพื่อนโทรไปเร่งบ่อยๆเลยให้สหวิชาชีพมาสอบเด็ก แค่รอบเดียวที่ตนได้ไปโรงพักคือไปให้ข้อมูลกับสหวิชาชีพ และโรงพักก็ไม่ได้ส่งความคืบหน้ามาเลยว่าส่งฟ้องหรือยัง คือไม่รู้เรื่องเลย
              จนเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา มีจดหมายมา 2 ฉบับที่บ้าน 1.จดหมายของศาล 2.จดหมายของสน.ธรรมศาลา ส่งมาว่าเด็กโดนแค่ข้อหาอนาจาร ล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่ได้เอาอวัยวะเพศสอดใส่ ซึ่งตนรู้สึกไม่เป็นธรรม ไม่น่าจะเป็นแค่อนาจาร จะให้ตนไปเรียกร้องค่าเสียหาย หาทนายก็ไม่ได้ตนไม่มีเงิน อยากพึ่งศาลก็ปิด 3 วัน วันที่ 21 พ.ย.65 จะให้ไปศาลแต่เช้าเพื่อเขียนคำร้องเรียกค่าเสียหาย แต่ตนกับยายไม่มีความรู้เลย รู้สึกแค่ในสำนวนข้อหามันไม่ใช่ ตัวเด็กยืนยันว่าโดนทำอนาจาร 2 รอบแล้ว ครั้งที่ 2 รุนแรงหน่อย ผู้ก่อเหตุเขาไปคุยกับยายไม่ได้มาคุยกับตนเลยไม่มีความรู้และรับเงิน 2,000 บาท ปิดบังไว้ตจนเรื่องมาแตกเพราะเด็กไปเล่าให้พี่สาวพ่อเขาฟัง บ้านของผู้ก่อเหตุนี่อายุ 60 กว่า น่าจะเรียกปู่ได้ เขาอยู่ซอย 68 ห่างกันเยอะพอสมควรจากบ้านเด็ก พ่อเขาก็ไว้ใจเพราะเขาไปทำงานและเอาลูกไปฝากไว้
              นายเดชวัฒน์ เดชบุรัมณ์ อายุ 36 ปี พ่อเด็ก กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนรับจ้างไปทำงานตัดต้นกล้วยให้กับลุงตู่(ผู้ก่อเหตุ) แล้วพาลูกไปด้วย จึงฝากลูกไว้กับกับลุงตู่เพราะสนิทกันเชื่อถือกัน เห็นรักเอ็นดูลูกตน มีอะไรก็เอาให้กินทุกอย่าง เพราะความไว้ใจและคิดว่าเขาแก่แล้วคงไม่มีพิษไม่มีภัย จึงฝากลูกไว้ก่อนไปทำงานตัดกล้วยห่างจากบ้านลุงตู่ประมาณ 50 เมตร ซึ่งตนรู้จักกับลุงตู่มานานหลายปีแล้วทำงานเป็นลูกจ้างเขามาเกือบ 10 ปี แล้ว เขานิสัยดี ภรรยาเขาก็ดี มีอะไรก็ให้ ไม่เคยคุยเรื่องลามกกัน ทำงานอย่างเดียวแต่เขาเป็นครกินเหล้าเมาตลอด เช้าก็กิน เย็นก็กิน

               นางแก้ว ปัญญายิ่ง อายุ 73 ปี คุณยาย เล่าว่า ตนอาบน้ำให้เด็ก และเขาบ่นเจ็บ ตนเลยมาดูเห็นว่าบวมแดงเลยถ่ายรูปเก็ยไว้ คืนนั้นก็ไปหาเขาที่บ้าน เมียผู้ก่อเหตุก็มาขอโทษบอกอย่าเอาเรื่องเลยเพราะรู้จักกัน เขาบอกพรุ่งนี้ให้พาไปตรวจด้วยกัน พอพาไปเสร็จเลยกลับเพราะไม่อยากให้เอาเรื่อง และเด็กเลยไปบอกป้าเขา หลานบอกว่าครั้งแรกเอานิ้วจับๆลูบๆแต่ไม่เจ็บ แต่ครั้งหลังคือเอานิ้วแหย่ และให้เด็กถอดกางเกงนั่งทับซักพักนึง เด็กไม่ได้บอกว่าผู้ก่อเหตุขู่อะไร แต่พอเด็กกลับมาบ้านเขาก็บ่นว่าเจ็บ เขาก็ไม่กล้าบอกพ่อ ตนไปรับหลานกลับมาบ้านตน พอเขาบ่นเจ็บตนถามว่าเป็นอะไร เด็กก็บอกว่าผู้ก่อเหตุทำ คืนที่ตนไปบ้านผู้ก่อเหตุเขาเมา และเมียเขาออกมาคุยแทน พอรุ่งเช้าก็พาไปหาหมอ ภรรยาเขาก็บอกว่ามีทนายเหมือนกันถ้าจะมาฟ้อง ตนเลยไม่ได้ฟ้องอะไร เขาบอกว่าถ้าจะตรวจมันเจ็บนะต้องขึ้นขาหยั่ง ตนกลัวหลานเจ็บเลยกลับ ตนก็สงสารไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจ ป้าเขาไม่ยอม เขาบอกให้ค่าทำขวัญ 2,000 บาท ตนเรียก 10,000 บาท เขาบอกไม่มีปัญญาให้ไปฟ้องเอา
               ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า อย่างแรกตนอธิบายว่าเอกสารที่อัยการส่งมาศาลส่งมาคือนัดพร้อม ไม่ได้ตัดสินคดี และตอนนี้ราชการปิด ตนจะทำเอกสารให้ครอบครัวนำไปยื่นในท้องที่และลองดูส่าคดีนี้เป็นพยายามข่มขืนหรืออนาจาร ซึ่งญาติเชื่อว่าถูกกระทำชำเราไม่ควรเป็นแค่อนาจาร ต้องขอบคุณคนรอบข้างด้วยในเคสเด็กๆแบบนี้ เรื่องนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดินกระทำอนาจารกับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ไม่ว่าเด็กจะยินยอมไม่ยินยอม หรือผู้ปกครองจะยินยอมหรือไม่ เมื่อมีการแจ้งความก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ยิ่งอายุน้อยอัตราโทษสูง อย่างสูงก็ 20 ปี ทำ 2 ครั้งก็คูณ 2 ไป