สุพรรณบุรี-ดารา นักท่องเที่ยว ตามรอยวรรณคดีขุนแผนชมโบสถ์มอญมหาอุต

ภาพ-ข่าว:มงคล สว่างศรี

          ดาราดังและนักท่องเที่ยวตามรอย วรรณคดี ขุนแผน ชมโบสถ์มอญมหาอุต ที่เรียนสรรพวิชาไสยเวทย์ของ ขุนแผนและเสือสุพรรณในอดีต ส่วนนักธุรกิจสาวบวงสรวง รูปปั้นแม่นางพิม หลังขอพรจนทำธุรกิจรวยปังพลิกชีวิต ขอโชคต่อ ในพิธีปลุกเสก วัตถุมงคล รุ่น ขุนแผนแสนสะท้าน วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร พร้อมรับแจกวัตถุมงคลและส่องเลขน้ำมนต์
         ไปกันที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร พระครูโสภณวีรานุวัตร ผศ.ดร.รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสุพรรณบุรี และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นประธานในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปลุกเสกวัตถุมงคล รุ่น ขุนแผนแสนสะท้าน โดยมีพระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรหาร ประธานในพิธีและร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลร่วมกับพระเกจิคณาจารย์ ชื่อดังเมืองสุพรรณบุรี หลวงพ่อสมบุญ วัดลำพันบอง อายุ 101 ปี อาจารย์แดง วัดมะนาว หลวงพ่อสมชาย สีผึ้งมหาเสน่ห์ วัดไผ่แปลกแม่ และ เกจิอาจาย์ วัดสถานที่ ที่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวข้องกับขุนแผน เดินทางไปร่ำเรียนวิชาไสยเวทย์ หลวงพ่อเอี่ยม วัดส้มใหญ่ จ.กาญจนบุรี พระอาจารย์สมศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดแคซึ่งในงานได้มีศิลปิน ดารานักร้องที่ศรัทธาพระขุนแผน คุณเป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ มาร่วมพิธีในครั้งนี้และคุณเหมยลี่ มุกดา แซ่เอี้ยว นักธุรกิจที่มาขอพร ขุนแผนและนางพิม ที่บริเวณหน้าวิหารหลวงพ่อโต แล้วประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ รวยปังทำให้พลิกฟื้นชีวิต มาร่วมพิธีบวงสรวง และหลังช่วงที่ทุกคนรอคอยหลังพิธีชาวบ้านต่างแห่เก็บของบวงสรวงสิ่งของมงคลกลับบ้าน เอาไปทานเชื่อว่าโชคดีเป็นสิริมงคล จากที่เต็มโต๊หายวัปไปกับตา
          นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้ตามรอย ขุนแผน ไปเยี่ยมชมโบสถ์มอญมหาอุต สถานที่จริง ที่ขุนแผน ได้มาฝึกฝนวิชา ไสยเวทย์ เนื่องขุนแผนเคยบวชเณรอยู่ที่วัดป่าเลไลยก์ พอได้เข้าไปภายในโบสถ์ต่างทึ่ง ในความเก่าแก่ของโบสถ์มอญและพระประธานหลวงพ่อขาว ที่ประดิษฐานภายในวิหาร ซึ่งคุณอนุสรณ์ พุฒติ ปราชญ์ท้องถิ่นวัดป่าเลไลยก์ ได้เล่าให้ฟังว่า โบสถ์มอญมหาอุด(วัดมอญร้าง) อยู่ที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี สร้างโดยกลุ่มชนชาวมอญมีอายุ ประมาณ 713-1,194ปี พระประธานหันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งเมืองหลวงชาวมอญ ตัวโบสถ์มอญมีขนาดเล็กจุคนได้ไม่มาก จึงใช้สำหรับทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์เท่านั้น ฆราวาสจึงไม่สามารถเข้าไปภายในได้ เป็นที่พระภิกษุเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานตลอดจนเป็นที่ฝึกฝนร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมปลุกเสกเครื่องรางของขลังและศาตราวุธต่างๆของเกจิอาจารย์ตลอดถึงแม่ทัพนายกองผู้เรืองวิชาในยุคก่อน ซึ่งขุนแผนก็ใช้สถานที่นี้ฝึกฝนและเรียนวิชาคาถาอาคมตั้งแต่ตอนบวชเณรด้วยเช่นกัน เนื่องด้วยลักษณะตัวโบสถ์มีประตูเข้าออกแค่ทางเดียวไม่มีหน้าต่าง เป็นที่มาของคำว่าโบสถ์มหาอุด จึงมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์
           สำหรับทำพิธีต่างๆและด้วยเหตุนี้ครูบาอาจารย์ตั้งแต่โบราณจึงไม่อนุญาตให้สตรีเข้าไปภายในโบสถ์มอญอย่างเด็ดขาด แม้แต่ยุคสมัยเสือต่างๆในสุพรรณบุรีหรือแม้แต่เหล่าตำรวจมือปราบต่างก็เข้ามาฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อถิรและได้ร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมกันที่โบสถ์มอญมหาอุดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
            ปัจจุบันโบสถ์มอญมหาอุดเปิดให้เข้ากราบสักการะช่วงเฉพาะเทศกาลวันหยุดสำคัญเท่านั้น เช่นสงกรานต์ ตรุษจีน ปีใหม่และงานปิดทองไหว้พระประจำปีวัดป่าเลไลยก์เท่านั้น เนื่องจากคนเฒ่าคนแก่ เคยเล่าว่า ภายใต้ฐานพระประธานอาจยังมีวัตถุมงคลหรือของมีค่าสมัยเก่าฝังใว้อยู่ และยังคงไว้ซึ่งความขลังความศักดิ์สิทธิ์จวบจนทุกวันนี้ แต่ถ้ามาสักการะเป็นหมู่คณะ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่วัดป่าเลไลยก์ 092 590-9595 ทางวัดจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและบรรยาย