อุตรดิตถ์-จับกุมคดีลักทรัพย์ต่อเนื่อง มูลค่าทรัพย์สินกว่า 5 แสนบาท

อุตรดิตถ์-จับกุมคดีลักทรัพย์ต่อเนื่อง มูลค่าทรัพย์สินกว่า 5 แสนบาท

ภาพ-ข่าว:เอนก ธรรมใจ

           เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรติตได้จัดให้มีการแถลงข่าว โดยมี พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ รอง ผบข.ภ.๖ ,พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป็กทอง ผบก.ภ. จว.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.สุเทพ ประภากรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์, พ.ต.อ.สมเกษม จารักษ์ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ และ พ.ต.อ.อัณณ์นพ อิ่มอุดม ผกก.สืบสวนภ.จว.อุตรดิตถ์ มาร่วมแถลงข่าวคดีลักทรัพย์ในเขดพื้นที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์โดยเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 530/4 ถนนสำราญรื่น ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ จึงร่วมกันบูรณาการจับกุมตัวผู้ต้องหาคือ นายวรพงศ์หรือนิค พรมฝ่าย อายุ 40 ปี ผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ในลักษณะต่อเนื่องสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ของ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวคือ
           คนร้ายรายนี้ก่อเหตุโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ไปก่อเหตุที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยคนร้ายจะใช้เครื่องเจียรตัดเหล็กแบบไร้สาย ทำลายกุญแจรั้วบ้านเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ขณะเจ้าของบ้านไม่อยู่ ซึ่งกล้องวงจรปิดในบ้านที่เจ้าของบ้านติดตั้งไว้สามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ชัดเจน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีจนทราบว่า คนร้ายได้นำของที่ ขโมยมาจากบ้านหลังเกิดเหตุเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้านของคนร้าย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงขออนุมัติหมายค้น ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าตรวจค้นบ้านของคนร้าย พบของกลางจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท
            จากการตรวจสอบข้อมูลและแผนประทุษกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นช่วงเวลากลางวันและเป็นบริเวณใกล้เคียงกับบ้านของคนร้าย พบว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง ในระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือน (ปรากฎตามชาร์จด้านหลัง)แต่จากการตรวจค้นพบของกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าน่จะก่อเหตุมามากกว่านั้น ถ้าประชาชนท่านใดที่ถูกคนร้ายแอบเข้าไปลักทรัพย์แล้วคิดว่าเป็นคนร้ายที่มีแผนประทุษกรรมหรือมีตำหนิรูปพรรณใกล้เคียงกับคนร้ายรายนี้ หรือมีทรัพย์สินของท่านที่สูญหายไปสามารถมาขอตรวจสอบทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดไว้ ได้ที่สภ.เมืองอุตรดิตถ์
             ในการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุครั้งนี้ได้ เกิดจากความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ความร่วมมือของ หน่วยงานเทศบาลและประชาชนที่ติดกล้องวงจรปิดไว้ ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะข้อมูลจากกล้องวงจรปิด จนนำไปสู่การรู้ตัวและจับกุมตัวผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ได้จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!