เพชรบุรี-จนท.อช.แก่งกระจานปะทะพรานกะหร่างล่าช้าง

ภาพ-ข่าว:สุรพล นาคนคร

         ชุดลาดตระเวน อช.แก่งกระจานปะทะกับพรานกะหร่างล่าช้าง โชคดีกลุ่มพรานยิงเพื่อเปิดทางหนี รอด 2 จับได้ 1 เจ้าหน้าที่ไม่มีความสูญเสีย
         หลังจากกลุ่มพรานล่าช้างในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเงียบหายไปนาน เจ้าหน้าที่อุยานแห่งชาติแก่งกระจานพบเบาะแสและร่องรอยพรานกะหร่าง บ้านป่าเด็งกลับมาล่าช้างอีกแล้ว โดยล่าสุดชุดลาดตระเวนได้ปะทะกับกลุ่มพรานล่าช้างที่บริเวณห้วยตะนะ ท้ายห้วยคมกฤต โดยกลุ่มพรานใช้อาวุธปืนอาร์ก้าและปืนลูกซอง โชคดีเป็นการยิงเพื่อเปิดทางหนีเจ้าหน้าที่ปลอดภัยและสามารถจับกุมพรานร่วมแก๊งค์ได้ 1 นายพร้อมปืนและเครื่องสุน สารภาพออกมาล่าช้างป่าเพื่อเอางาและอวัยวะ ในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุพบซากช้างป่าตาย 1 ตัว เร่งตรวจสอบว่า เกิดจากการถูกล่าหรือไม่
        วันนี้ 13 เม.ย.2564 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน หน่วยพิทักษ์ป่าแก่งกระจานที่ 2 (เขาสามยอด) ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS))ประเทศไทย ได้ออกลาดตระเวนในพื้นที่พร้อมทั้งติดตั้งกล้อง camera trap ที่บริเวณป่าห้วยคมกฤต ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน พบร่องรอยการลักลอบล่าสัตว์ป่า จึงได้สะกดรอยติดตาม ต่อมากลุ่มพรานไหวตัวใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ 1 นัด เพื่อเปิดทางหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการโอบล้อมและสามารถจับกุมตัวได้ 1 นาย สามารถยึดอาวุธปืนลูกกรดไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 ม.ม. จำนวน 66 นัด ซากงูเหลือมรมควัน จำนวน 1 ซากและอุปกรณ์เดินป่าอีกจำนวนหนึ่ง
         จึงรายงานให้นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานทราบ และร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบปากคำผู้ต้องหา นายซูดิ๊ เวนะ อายุ 26 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 บ้านป่าเด็ง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน ให้การรับสารภาพว่า ได้เข้ามาล่าสัตว์ป่าในพื้นที่จำนวน 3 คน ประกอบด้วยนายชิลี่ เวนะ และนายแบล๊ะทู ชาวบ้านหมู่เดียวกัน โดยนายชิลี่ ใช้อาวุธปืนอาร์ก้า ( AK 47) ส่วนนายแบล๊ะทูใช้อาวุธปืนลูกซอง เมื่อทำการตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุบริเวณในร่องห้วยตะนะ พบซากโครงกระดูกช้างป่าขนาดโตเต็มวัย ไม่ทราบเพศ คาดว่าเสียชีวิตโดยธรรมชาติ จึงได้เก็บรวมเพื่อเป็นหลักฐานและนำตัวไปทำบันทึกจับกุมก่อนส่งพนักงานสอบสวนสภ.แก่งกระจาน
          สำหรับกลุ่มพรานกะหร่างกลุ่มนี้ มีนายชิลี่ เวนะ เป้นหัวหน้ากลุ่ม เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายสมบูรณ์ เวนะ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจ.เพชรบุรี ในคดีล่าช้างป่า โดยยังมีพรานร่วมแก๊งค์อีกสองนายคือ นายสมพร จอกายและนายจอตะกีที่ยังหลบหนีหมายจับเช่นกัน