ร้อยเอ็ด-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดงานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 23
ภาพ/ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน
เมื่อเวลา 18.20 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2566 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 23 จังหวัดร้อยเอ็ด ณ บริเวณ โดมเวทีกลาง ลานสาเกตนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด โดยมี นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายชูศักดิ์ ราชบุรี นายชัยวัฒน์ ชัยเวชพิสิฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน้อยเอ็ด ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ภาคเอกชน และชาวร้อยเอ็ด ร่วมให้การต้อนรับ
นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า “ข้าวหอมมะลิ” เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัดร้อยเอ็ด โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ปลูกในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดมีพื้นที่ในทุ่งกุลาร้องไห้ถึงร้อยละ 46 ของพื้นที่ทุ่งกุลาทั้งหมด 2.1 ล้านไร่ ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด 9.8 แสนไร่
สุรินทร์ 5.7 แสนไร่ ศรีสะเกษ 2.8 แสนไร่ มหาสารคาม 1.9 แสนไร่ และ ยโสธร 6.4 หมื่นไร่ การจัดงานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 23 มีคอนเซ็ป คือ “ตลาดนำนวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิและผลิตภัณฑ์ ตลอดจนสินค้าการเกษตรอื่น ๆ ที่สำคัญของจังหวัดและเชื่อมโยงการตลาดข้าวหอมมะลิจังหวัดร้อยเอ็ดจากกลุ่มเกษตรกรไปสู่ช่องทางการตลาดทั้งภายในและต่างประเทศให้หลากหลายช่องทาง นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในกระบวนการผลิตที่เหมาะสมกับพื้นที่ การแปรรูปข้าว และอุตสาหกรรมด้านอาหาร และสินค้าการเกษตร อื่น ๆ สู่การทำเกษตรสร้างมูลค่า สืบสานวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระหรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวแสดงความชื่นชม ในความร่วมมือร่วมใจอันดี ของทุกภาคส่วนที่ทุ่มเททำงานในการพัฒนาและประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะสิอันทรงคุณค่าของผืนแผ่นดินไทย เพราะนี่ไม่ใช่เพียงความภาคภูมิใจของคนร้อยเอ็ด แต่ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติที่”ข้าวหอมมะลิ 105 ที่ปลูกในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นที่รู้จักและถูกส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้นข้าวหอมมะลิร้อยเอ็ด หรือข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ถือเป็นสายพันธุ์ข้าวที่เป็นหนึ่งในโลก จนทั่วโลกยอมรับว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก จนได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและยกระตับภาคการเกษตรไทยให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือภาครัฐและเอกชนด้านการเกษตรเป็นกำลังสำคัญ ซึ่งจะเป็นอีกพลังที่เข้มแข็งในการพัฒนาความร่วมมือต้านการเกษตร ตลอดจนสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้โดยใช้ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้วางเป้าหมายเพื่อยกระดับภาคเกษตร และช่วยเหลือเกษตรกรไทย เพื่อให้เกษตรกรกินดีอยู่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคง”
โดยก่อนพิธีเปิดงานหลังจากที่เดินทางมาถึงสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ร้อยเอก ธรรมนัสฯ ได้เยี่ยมชมหอโหวดร้อยเอ็ด หรือร้อยเอ็ดทาวเวอร์ 101 โดยมีการบรรยายพร้อมการรับชมวีดีทัศน์เกี่ยวกับความเป็นมาของหอโหวด 101 ขึ้นเยี่ยมชมสินค้า ของที่ระลึกประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ตามชั้นต่างของหอโหวด ชมชั้นสกายวอล์ค ชมวิวทิวทัศน์ชมเมืองร้อยเอ็ดและบึงพลาญชัย กราบนมัสการพระพุทธมิ่งเมืองมงคล และพระบรมสารีริกธาตุ ชั้นที่ 35 ชั้นบนสุดของหอโหวด 101 หลังจากนั้นเยี่ยมชมบูทการออกร้านนิทรรศการของภาครัฐและภาคเอกชน ที่มีสินค้า และนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์จากข้าวหอมมะลิ ที่หลากหลาย และเปิดงานข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 23 ตามลำดับ และหน่วยงานที่ร่วมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กลุ่มโครงการด้านเกษตรและอาหาร องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศเยอรมันประจำประเทศไทย สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด 5 จังหวัดพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ (ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ ศรีสะเกษ และยโสธร) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด ฯลฯ