ปราจีนบุรี-ชื่นชม! “วัลลี 2” หนูน้อยยอดกตัญญู นร.ชั้น ป.5

ปราจีนบุรี-ชื่นชม! “วัลลี 2” หนูน้อยยอดกตัญญู นร.ชั้น ป.5

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ / ณัฐนันท์ (ดาว)

          เมื่อเวลา 15.45 น. วันนี้ (17 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากนายเฉลิม เกียรติบรรจง อายุ 60 ปี ทนายความ และ อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีหลายสมัย ที่ได้รับการประสานงานจากครูประจำชั้น – ญาติ ของเด็กนักเรียนหญิงยอดกตัญญู “วัลลี 2” ที่กำลังเรียนเพียงในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อายุ 11 ปี โรงเรียนอนุบาลกบินทร์บุรี ที่มีภาระรับผิดชอบเป็นเสาหลักในการต้องช่วยดูแล พ่อ อายุ 43 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป แต่เกิดอุบัติเหตุรถ จยย.คว่ำขณะขับขี่ ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองและทำกินได้ในขณะนี้ ต่อมาระยะเวลาไล่เลี่ยกันไม่ถึงเดือน ย่า อายุ 70 ปี จู่ ๆ ได้ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ กลายเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก(ซ้าย) แขน – ขา (ฝั่งซ้าย) ยกไม่ได้ เคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้จะต้องมีคนคอยยก-จับจึงจะขยับได้ ป่วยติดเตียงเช่นกันไปอีกราย มีคนที่แบกรับภาระในการหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียวคือปู่ของเด็กหญิง ที่อายุมากถึง 75 ปี ทำกินเลี้ยงดูคนทั้งบ้าน รวม 4 ชีวิต โดยไปทำงานรับจ้างที่ กทม. ภาระในการดูแลบ้าน หุงข้าว ทำกับข้าว ดูแลพ่อ และ ย่า จึงต้องเป็นหน้าที่ของเด็กนักเรียนหญิงยอดกตัญญู “วัลลี 2” วัยแค่ 11 ปี เพียงลำพังไปทั้งบ้าน จะมีเพียงบางเวลาที่ญาติที่บ้านใกล้เคียงกันจะมาช่วย โดย “วัลลี 2” จะช่วยดูแลตั้งแต่ตื่นขึ้นมาหุงหาข้าวปลา เตรียมอาหาร ทำความสะอาดบ้าน เช็ดตัวให้พ่อ ให้ย่า เปลี่ยนแพมเพิส ป้อนข้าวให้พ่อที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย และเตรียมอาหารมาให้ย่าที่ยกมือขวาได้เองข้างเดียว จากนั้นขี่รถจักรยานถีบที่มีคนให้มาก่อนหน้านี้เพราะสงสารไปโรงเรียน ที่ตั้งห่างจากบ้านกว่า 300 เมตรเศษ และเมื่อโรงเรียนพักกลางวัน หลังรับประทานอาหารกลางวันแล้ว นักเรียนหญิงยอดกตัญญู “วัลลี 2” จะขออนุญาตครูประจำชั้นรีบปั่นรถจักรยานถีบกลับมาดูแลพ่อ – ย่า ที่ป่วยติดเตียงทั้งคู่จนแล้วเสร็จจึงรีบกลับไปเรียนหนังสือพร้อมเพื่อนร่วมชั้นเรียน อยากให้สื่อมวลชนช่วยสะท้อนภาพความกตัญญูของ น้อง “วัลลี 2” ให้ คนที่เมตตาได้ช่วยเหลือ
          ผู้สื่อข่าว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บ้านเลขที่บ้าน 6/1 หมู่ 1 บ้านดงเย็น ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จากสี่แยกสามทหารขึ้นมาทางฝั่งไปห้างแม็คโคร (สาขากบินทร์บุรี) ไปตามถนนสายสุวินทวงศ์ (กบินทร์บุรี – นาดี) หรือ สาย 304 ประมาณ 3 กม.เศษเข้ามาด้านหลังวัดหลวงบดินทร์เดชา มาที่หมู่บ้านดงเย็น เทศบาลตำบลเมืองเก่า หมู่ 9 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน พบครูประจำชั้นทราบชื่อคือ นางชรินทร์ทิพย์ เจริญทอง ตำแหน่งครู เป็นคุณครูประจำชั้น ป.5 ที่ได้รับมอบหมายจากนายปิยะศักดิ์ ผ.อ.สถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลกบินทร์บุรี ได้มาเยี่ยมบ้านเพื่อทำบันทึกเรื่องดังกล่าวนี้ นำเสนอต่อสำนักงานการประถมศึกษาเขต 2 ปราจีนบุรี ในการยื่นเรื่องเกี่ยวกับในการทำเรื่องขอรับทุนการศึกษาในการช่วยเหลือแก่เด็กนักเรียนหญิงยอดกตัญญู “วัลลี 2”เพิ่มเติม นอกจากเงินทุนการศึกษายากจนขั้นพื้นฐาน ที่ทางโรงเรียนได้มอบให้กับ “วัลลี2” ที่ฐานะยากจนก่อนหน้านี้ พร้อมกับได้พบปู่ และ ญาติบ้านใกล้ ๆ กัน มาให้กำลังใจ-ข้อมูลพอดี พร้อมพบภาพน่าชื่นชม ในความกตัญญูที่หนูน้อย “วัลลี2” เด็กหญิง กัญญาพัชร หรือใบเฟิร์น บัวเรือง อายุ 11 ปี ชั้น ป. 5 กำลังช่วยดูแลพ่อคือ นายสุวัฒชัย บัวเรือง อายุ 43 ปีในการเช็ดตัว ,เปลี่ยนผ้าเพิมเพิส, หาอาหาร – ป้อนข้าว น้ำ ,หุงข้าว โดยพ่อของเธอติดเตียง พร้อม ๆ ได้ช่วยปู่คือ นายประดิษฐ์ บัวเรืองอายุ 75 ปีที่ลางานกลับมาดูครอบครัวช่วยย่านางธงชัย บัวเรือง อายุ 70 ปี ช่วยทำกายภาพบำบัด – จัดเตรียมอาหารมาให้ย่า ที่ย่าพอใช้มือขวาตักกินอาหารเองได้บ้าง
          นางชรินทร์ทิพย์ เจริญทอง กล่าวว่า ตนเองพร้อมครูคู่ชั้นคือ นายดุษฎี จันศรีบด ได้ทราบเรื่องจากนักเรียน แจ้งให้รู้อันดับแรกคือพ่อป่วยเป็นคนป่วยติดเตียง เนื่องจากประสบอุบัติเหตุขณะขับขี่รถ จยย.ก่อน ราวเดือน ส.ค.66 ที่ต้องคอยเฝ้าไข้ระหว่างพ่อยังป่วยที่โรงพยาบาลฯและเมื่อกลับมารักษาต่อที่บ้าน ต่อมาย่าที่เป็นคนเฝ้าพ่อระหว่างพ่อป่วยได้ประมาณ 1 อาทิตย์ก็ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปอีก 1 คน ในต้นเดือน ก.ย. 66 นี้ หลังจากนั้นทางเด็กหญิง กัญญาพัชร หรือ ใบเฟิร์น ก็ขอออกมาดูแลย่ากับพ่อตอนช่วงพักกลางวันหลังจากรับประทานอาหารที่โรงเรียนเสร็จ ซึ่งพ่อและย่าป่วยติดเตียงทั้งคู่ เพื่อมาทำหน้าที่ดูแล ป้อนข้าว น้ำ เช็ดตัว เปลี่ยนผ้าแพมเพิส เทปัสสาวะ เช็ดอุจจาระ ตอนนั้นหลังทราบเรื่องครูมาเยี่ยมบ้าน มาเจอพ่อที่ป่วยอยู่ก่อน ขณะนั้นทางย่ายังไม่ป่วย หลังจากนั้นได้ไม่นานย่าก็ป่วย ส่วนปู่ไปทำงานที่กทม. หลังจากทราบเรื่องจึงแจ้งไปทาง ผ.อ.โรงเรียน ซึ่งได้ทุนจากทางโรงเรียนเบื้องต้นแล้ว นางชรินทร์ทิพย์กล่าว และกล่าวต่อไปว่า ที่โรงเรียนมีนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลฯ ถึง ม. 3 นักเรียนรวมกว่า 200 คน ในห้อง ป.5 นร.จำนวน 27 คน กลางวันมีจิตอาสา 2 คนที่ปั่นจักรยานไปกับน้องตอนกลางวัน เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับ “วัลลี 2” เพราะเป็นเด็กผู้หญิง หน้าตาดี และเป็นห่วงเรื่อง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ที่ขับไว อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย นางชรินทร์ทิพย์กล่าว
          ด้านนายประดิษฐ์ บัวเรือง อายุ 74 ปี ปู่ กล่าวว่า ปกติตนเองไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ได้เงินเดือนเดือนละ 9,500 บาท ส่งให้ที่บ้านเดือนละ 4,000 บาท เงินก็ไม่ค่อยพอใช้ติดลบ เพราะเอาของเถ้าแก่มาใช้ก่อน ตอนลูกภรรยาป่วย อาศัยพักกินอยู่กับเถ้าแก่ ซื้อกับข้าวกินเอง ตนอายุก็มากแล้วหลังก็ไม่ค่อยดี จะกลับมาดูแลครอบครัว เฉพาะฉุกเฉินเวลาพาผู้ป่วยทั้ง 2 ที่ติดเตียง (เมีย-ลูกชาย) ไปโรงพยาบาลกบินทร์บุรีตามหมอนัดเพราะไม่มีคนพาไป
          เด็กหญิงกัญญาพัชร หรือใบเฟิร์น บัวเรือง “วัลลี2” อายุ 11 ปี กล่าวว่า กำลังเรียนอยู่ ระดับชั้น ป.5 โรงเรียนอนุบาลกบินทร์บุรี สังกัดสำนักงานเขตประถมศึกษาเขต 2 ปราจีนบุรี ที่บ้านอยู่กัน 4 คนคือ ปู่ ย่า พ่อ และตนเอง แต่ปู่ไปทำงานที่กทม. เลี้ยงครอบครัว พ่อและย่าป่วยติดเตียง ภาระกิจประจำวันตนเอง ตื่นนอนมาล้างหน้าหุงข้าวแต่งตัวแล้วต้องคอยเปลี่ยนแพมเพิส เช็ดตัวให้พ่อ หาข้าวให้ย่า และป้อนข้าวพ่อแล้วไปโรงเรียน เรียนหนังสือ เวลาพักกลางวันต้องกลับมาดูแลอีกรอบเพราะไม่มีใคร อยากเล่นกับเพื่อนแต่ก็ไม่ได้ไปเล่น เพราะต้องดูแลย่ากับพ่อ อนาคตอยากเป็นพยาบาล เด็กหญิง กัญญาพัชร หรือใบเฟิร์น กล่าว
          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับ…วัลลี เด็กหญิงยอดกตัญญู เป็นเรื่องในอดีต ย้อนไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก วัลลี บุญเส็ง หรือ วัลลี ณรงค์เวทย์ เด็กหญิงยอดกตัญญู ที่ต้องวิ่งกลับบ้านไปป้อนข้าวแม่ที่ป่วยและยายที่ตาบอด ทั้งที่ในตอนนั้นเธอมีอายุแค่ 12 ปี ซึ่งเรื่องราวของเธอถูกเล่าขานและกลายเป็นที่ยกย่องในความกตัญญูกตเวที จนกลายมาเป็นบุคคลต้นแบบในสังคมไทยอยู่ช่วงหนึ่ง และมีการนำเรื่องราวชีวิตของวัลลี มาทำเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!