เพชรบูรณ์-เกษตรกรผู้ปลูกยาเส้น รวมตัวกว่า 2,000 คน บุกศาลากลางจังหวัดฯ

เพชรบูรณ์-เกษตรกรผู้ปลูกยาเส้น รวมตัวกว่า 2,000 คน บุกศาลากลางจังหวัดฯ

ภาพ/ข่าว:สนม บุญจันทึก

เกษตรกรผู้ปลูกยาเส้น จ.เพชรบูรณ์ รวมตัวกว่า 2,000 คน บุกศาลากลางจังหวัดฯร้องผ่านจังหวัด ให้รัฐบาลยกเลิกกฎกระทรวงภาษียาสูบ ที่สูง2000 เปอร์เซ็นต์ หรือ 20 เท่าของภาษีเดิม ค่าภาษียังมากกว่าการซื้อขายอีก

        วันนี้(4 มิ.ย.62) ที่บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ มีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาเส้น จาก อ.หล่มเก่า และ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้รวมตัวกว่า 1,000 คน พร้อมถือป้ายต่างๆให้รัฐบาลยกเลิกกฎกระทรวงภาษียาสูบ ซึ่งชาวเกษตรกรมองว่า เป็นการขึ้นภาษีที่สูงเกินไป โดยอัตราเก็บภาษียังสูงกว่าการซื้อขายอีก ต่อมานายสาคร รุ่งเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เชิญตัวแทนเกษตรกร เข้าประชุมหารือ โดยนายโนกฤต วลโภคาศัย ตัวแทนผู้ประกอบการรับซื้อยาเส้น กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกกฎกระทรวง กำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2562 ให้ยกเลิกกฎกระทรวงการเก็บภาษีเดิมและใช้อัตราภาษีใหม่ โดยอัตราภาษีใหม่นี้ได้สร้างผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบในจังหวัดเพชรบูรณ์อย่างมาก เนื่องจากเดิมการจัดเก็บของกรมสรรพสามิตยาเส้น จะเก็บกรัมละ 0.005 บาท ซึ่งการซื้อขายยาเส้นจะบรรจุเป็นถุงๆละ 10 กิโลกรัม ซึ่งจะเสียภาษี 50 บาท แต่ออกกฎกระทรวงฉบับนี้ ต้องเสียภาษียาเส้นกรัมละ 0.10 บาท หรือ 2,000 เปอร์เซ็นต์ หรือ 20 เท่าของอัตราภาษีเดิม ทำให้ต้องเสียภาษียาเส้นถุงละ 1000 บาท เมื่อรวมกับภาษีอื่นๆเช่น เงินกองทุนส่งเสริมสุขภาพ,กองกองทุนพัฒนากีฬา และเงินภาษีที่ต้องจ่ายแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 17.5 บาท จะทำให้เสียภาษีทั้งหมด 1,175 บาท ต่อถุง( 10 กิโลกรัม) ขณะที่ผู้ประกอบการมาซื้อยาเส้นจากเกษตรกร ในอัตรา 10 กิโลกรัม 1,000 บาทเท่านั้น จึงอยากให้รัฐบาลยกเลิกกฎกระทรวงดังกล่าว เพราะขณะนี้มีเกษตรกรในพื้นที่ราว 4,600 ครัวเรือน ที่ปลูกยาเส้น และยังตกค้างตามบ้านเรือน ซึ่งไม่สามารถขายได้อีกกว่า 1 แสนกิโลกรัม

           เช่นเดียวกับนางกาญจนา โมเรือง เกษตรกรผู้ปลูกยาเส้น ในพื้นที่อำเภอหล่มสัก กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างมาก ไม่มีเงินไปชำระค่าปุ๋ย ค่ายาและค่าแรงในการจัดเก็บ ตลอดจนค่าหนี้ ธกส.ด้วย หากยังปล่อยให้เป็นอยู่ในลักษณะนี้ จะทำให้ยาเส้นที่ที่หั่นและตากแห้ง รอการขายเสียหายหลายพันตัน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จึงวิงวอนให้รัฐบาลช่วยเหลือ และยกเลิกกฎกระทรวงดังกล่าว หรือ ให้ส่งนักวิชาการลงมาในพื้นที่ เพื่อสำรวจสอบถามความจริงกับเกษตรกร เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและไม่ไม่เก็บภาษีแบบโหดก้าวกระโดดในลักษณะนี้

           ต่อมานายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ลงมารับหนังสือจากตัวแทนเกษตรกร พร้อมรับปากว่า จะนำปัญหาความต้องการของเกษตรกรทั้งหมด ส่งไปยังรัฐบาล โดยผ่านสรรพสามิตจังหวัด โดยจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะเห็นว่าเป็นความเดือดร้อนจริงๆ ทำให้กลุ่มเกษตรกรยาเส้นพอใจและแยกย้ายเดินทางกลับ

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!