เพชรบุรี-ชาวท่าแลงยื่นฟ้องอดีตผู้ว่าฯเพชรบุรี​

เพชรบุรี-ชาวท่าแลงยื่นฟ้องอดีตผู้ว่าฯเพชรบุรี​

ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร

                 ชาวท่าแลง เพชรบุรี ยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริต ภาค 7 เอาผิดผู้ว่าบึงกาฬสมัยนั่งเป็นพ่อเมืองเพชรบุรี ฐานออกหน้าหาประโยชน์จากการทำโครงการบริหารจัดการและกำจัดขยะมูลฝอย ร่วมกับนายกเล็กท่าแลงฐานออกใบอนุญาตกำจัดขยะโดยทุจริตอีกทั้งยังพบหุ้นใหญ่เป็นของนักการเมืองตระกูลดัง “ชาญวีรกูล”

                     จากกรณีที่มีความขัดแย้งระหว่างผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในเขตตำบลท่าแลง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เรื่อง การออกใบอนุญาตให้เอกชนเข้ามาทำการกำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่ โดยมีการสร้างโรงงานแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าในตำบลท่าแลงและมีการนำขยะนอกเขตตำบลท่าแลงเข้ามากำจัดในพื้นที่ โดยชาวบ้านในพื้นที่ได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไข แต่ไม่เป็นผล กลายเป็นผู้นำท้องถิ่นตลอดจนชาวบ้านที่ร้อง ถูกทางโรงงานฯฟ้องเอาผิดในหลายคดีและมีการเรียกค่าเสียหายสูงถึง 150 ล้านบาท แต่ในที่สุดศาลจังหวัดเพชรบุรี และศาลอาญา กรุงเทพ ได้ยกฟ้องทุกคดี
                     ล่าสุด ชาวบ้านได้ร่วมกันยื่นฟ้องเอาผิดนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง บริษัทฯผู้รับใบอนุญาต แถมพ่วงด้วยอดีตผู้ว่าราขการจังหวัดเพชรบุรี ที่ออกหน้าหาประโยชน์ต่อพวกพ้องเป็นการทุจริตต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 แล้วสายวันนี้ 4 ก.พ.63 นายเฉลา สุวรรณชาติ กำนันตำบลท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมพวกรวม 9 คน ได้ยื่นฟ้องนายสงวน จิตต์พุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ที่ 1 บริษัท ดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด ที่ 2 และนายสนิท ขาวสะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ที่ 3 ฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โจทก์บรรยายฟ้องว่า นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ร่วมกับบริษัทดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด กระทำความผิดในการทำสัญญาเรื่อง รับดำเนินโครงการบริหารจัดการและกำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เนื่องจากเป็นสัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายกเทศมนตรีไม่มีอำนาจในการทำสัญญากับเอกชนโดยไม่ได้รับมอบหมายจากสภาเทศบาลและไม่ได้รับความเห็นชอบจากรมว.มหาดไทยก่อน
                     นอกจากนี้ยังพบอีกว่านายกทต.ท่าแลงยังออกหนังสืออนุญาตให้ทางบริษัทฯใช้ขยะเก่าตกค้างในพื้นที่เทศบาลตำบลท่าแลง จำนวน 600,000 ตัน โดยไม่มีอำนาจอันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง อีกทั้งยังได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพให้กับทางบริษัทฯต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยทางบริษัทฯ ได้มีการนำเอาขยะนอกเขตเทศบาลตำบลท่าแลงเข้ามากองสต๊อคไว้ในพื้นที่ของทางบริษัทฯ เนื่องจากโรงงานแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้ายังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ อันเป็นการนำขยะนอกเขตอำนาจเข้ามาในพื้นที่ทต.ท่าแลง ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 55 ที่บัญญัติไว้ว่า บรรดาใบอนุญาตตามพรบ.นี้ ให้มีอายุ 1 ปี นับแต่วันที่ออกใบอนุญาตและให้ใช้ได้เพียงในเขตอำนาจของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2560 นายกทต.ท่าแลง ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ได้ออกใบอนุญาตการกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย และใบอนุญาตการหาประโยชน์จากการจัดการสิ่งปฏิกูลมูลฝอย มีระยะเวลาอนุญาต 5 ปี ซึ่งในเทศบัญญัติของเทศบาลตำบลท่าแลง เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลและขยะมูลฝอย พ.ศ.2552 ซึ่งตราเป็นอนุบัญญัติตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 มิได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้ จึงเป็นการออกใบอนุญาตโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายและเกินอำนาจของเจ้าพนักงานท้องถิ่น

สำหรับนายสนิท ขาวสะอาด ผวจ.บึงกาฬสมัยเป็นผวจ.เพชรบุรี เมื่อปี 2559 ได้ใช้ตำแหน่งประธานกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดเพชรบุรี ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย กำหนดกลุ่มพื้นที่ในการจัดการขยะมูลฝอยของจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับทางบริษัทฯ ซึ่งเป็นเอกชนที่ทำธุรกิจกำจัดขยะมูลฝอย, โดยเป็นธุระออกหน้าให้ท้องถิ่นหลายแห่งทำบันทึกข้อตกลงเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง รวมทั้งละเว้นไม่กำกับดูแลให้ นายกทต.ท่าแลง ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของทางราชการและกฏหมายที่เกี่ยวข้อง จนทำให้ผู้ฟ้องและชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายต่อทางราชการอย่างร้ายแรง. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 นัดวันฟังคำสั่งวันที่ 30 มี.ค.2563

และเมื่อตรวจสอบถึงบริษัท ดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด พบว่าเป็นบริษัทในเครือของตระกูลนักเมืองใหญ่ มีทุนจดทะเบียน 700 ล้านบาท มีชื่อนางอาทิตยา ชาญวีรกูล เป็นกรรมการของบริษัท โดยมีที่ตั้งบริษัทใหม่ล่าสุดอยู่ที่ อาคารซิโน-ไทย โดยเมื่อปี 2559 นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล นายเปรมชัย กรรณสูตร และรองปลัดกระทรวงมหาดไทยมาประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และขึ้นเสาเอกโรงงานแปรรูปขยะนี้ด้วย ก่อนหน้านี้ได้มีการร้องเอาผิดนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลงต่อผวจ.เพชรบุรี และมีคำสั่งสอบข้อเท็จจริงพบมีมูลจึงถูกตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดตามระเบียบการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทยแล้ว

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!