สระบุรี-( คืบหน้า ) โค๊ชใช้ท่อ PVC เด็กนักฟุตบอล

สระบุรี-( คืบหน้า ) โค๊ชใช้ท่อ PVC เด็กนักฟุตบอล

ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร

( คืบหน้า ) โค๊ชใช้ท่อ PVC เด็กนักฟุตบอล พ่อแม่ทยอยมาเป็นพยานให้กับน้องมาร์ติน

       วันที่ 14 มิถุนายน 2562 สถานีตำรวจภุธรหนองแค อ. หนองแค จ.สระบุรี นางปภัสรา ใจเอิ้อย อายุ 28 ปี อยู่  อ. สามพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้เดินทาง มาพร้อมเด็กชายเอ(นามสมมุติ) ลูกชาย วัย 11 ปี มาให้พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยตำรวจเอกณิกทัศน์ หาเคน สภ. หนองแค ร้อยเวรสอบสวน หลังมาแจ้งความในคดีทำร้ายร่างกายโดยการโดนลงโทษของโค๊ชฟุตบอลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรีเนื่องจากโรงเรียนแห่งนี้ได้มีข้อตกลงกับสโมสรเทโรศาสนะ เพื่อเฟ้นหานักฟุตบอลส่งในนามเยาวชน ไปทำการแข่งขันฟุตบอลในทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ เมื่อเดินทางมาถึง ผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามถึงมูลเหตุในการที่ลูกชาย วัย 11 ปี ฝึกซ้อมฟุตบอลแล้วโดนโค๊ชใช้ท่อน PVC ตีที่น่องขาเป็นแผล จากการสอบถามได้เล่าให้ฟังว่า ด้วยแม่มารับลูกชายวัย 11 ปี อยู่ป.5 เป็นเด็กที่มีใจรักในการเล่นฟุตบอล จึงมาสมัครคัดตัวที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจ.สระบุรี และเรียนที่นั่นในรูปแบบประจำกินนอน แบบเสียรายเดือน 2,000 บาท แต่สิ่งที่ได้รับคือลูกถูกตีด้วยท่อ pvc จนขาเขียวช้ำเพียงเพราะซ้อมไม่ได้ตามที่โค้ชต้องการ ยิงประตูไม่เข้า ส่งบอลไม่ได้ ลูกบอกว่าเด็กแทบทุกคนโดนหมดเวลายิงไม่เข้า ลูกหนูไปอยู่ได้เดือนกว่าๆ เค้าบอกว่าโดนมาแล้ว 6 ครั้ง ครั้งล่าสุดที่เป็นรอยโดนเมื่อวันอังคาร ที่ 4 และวันพุธที่ 5 ที่ผ่านมา แต่หนูพึ่งเห็นขาลูกเพราะเมื่อคืนไปหาลูก ครูในโรงเรียนก็บอกว่าเค้าทำโทษเด็กแบบนี้เป็นปกติ แล้วให้หนูเอาลูกกลับบ้านที่ จ.สุพรรณบุรีเลย วันนี้ ร้อยตำรวจเอกณิกทัศน์ หาเคน ร้อยเวรสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการนัด ลูกชายของหนูมาให้ปากคำกับ อัยการ ศาลเยาวชน เพื่อให้สหวิชาชีพทำการสอบปากคำและให้ รายละเอียด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส. หนองแค พาเดินทางไปยังศาลเยาวชน จ.สระบุรี สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ได้เรียกโค๊ชโหดรายนี้มาทำการสอบสวน ต้องส่งตัวเด็กไปให้สหวิชาชีพทำการสอบสวนให้แล้วเสร็จจึงจะได้เรียกโค๊ชโหดรายนี้มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

สอบถาม เด็กชายเอ(นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ป. 5 ได้ความว่า ตนเอง มาอยู่โรงเรียนแห่งนี้นานกว่า 1 เดือน ทำการฝึกซ้อม เพื่อทำการคัดตัว โดนทำในลักษณะนี้มากกว่า 6 ครั้งแล้ว โดยไม่ได้บอกใคร แต่แล้วแม่มาเยี่ยม แม่เห็นเป็นรอยตีที่บริเวณท่อนขา จึงได้ถามตนเองจึงเล่าให้แม่ฟัง แล้วแม่ก็พากลับบ้าที่ สุพรรณเลย

หลังจากนั้น ยังมีผู้ปกครองของนักเรียนที่ทำการฝึกซ้อมฟุตบอลในโรงเรียนแห่งนี้  ( ผู้ปกครองของนักเรียนที่เคยฝึกซ้อมฟุตบอลที่นี้ ) โดยมีมาเป็นพยานจำนวน 2 คน โดยลูกพาลูกชายมาทำการฝึกซ้อมที่โรงเรียนเทศบาล 4 ( หนองแคอนุสรณ์ ) เมื่อเล่นมาได้ซักพัก ทางโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ติดต่อมาเพื่อให้ไปเล่นฟุตบอล ยูลีก 13 ปี ของการกีฬาแห่งประเทศไทย จากนั้น ได้สอบถามเพื่อนบ้านซึ่งเป็นผู้ปกครองเด็กว่า จะพาไปดีไหม เคยได้ยินข่าวว่า มีการลงโทษ และทำร้ายเด็ก โดยการตบ และมีเลือดออก โดยคนที่โดนมาเล่าให้ฟัง แต่ผมไม่เชื่อ เนื่องจากคิดว่า โค๊ชจะใช้ความรุนแรงกับเด็ก จนวันหนึ่ง ผมได้พาลูกชายพาไปดูการซ้อมที่โรงเรียนแห่งนี้ ดูไปดูมา ก็มีบ้างดุด่า แต่ไม่เห็นลงไม้ลงมือ โดยการซ้อม ในช่วงเช้า วิ่งวันละ 10 กิโลเมตร จนแน่ใจว่าจะพาลูกชายมาทำการฝึกซ้อมที่โรงเรียนแห่งนี้ จึงได้เดินทางมาพบกับ ผู้อำนวยการโรงเรียน แล้วสอบถามว่ามีการทำร้ายร่างกายเด็กไหม ปรากฏว่า ผอ. บอกว่าก็มีมั่ง แต่ได้ตักเตือนทางด้านโค๊ช แล้ว แต่ก็ดีขึ้น จึงตัดสินใจพาลูกชายมาเข้าโรงเรียนแห่งนี้ แล้วทำการฝึกซ้อมใช้เวลากว่า 5 เดือน ได้เข้าทำการแข่งขัน ยู 13 ปี โดยก่อนการแข่งขันมีเด็กป่วย 7 คน โดยการฝึกซ้อมนั้น ไม่ให้เด็กดื่มน้ำ เด็กน่าจะเกิดการฮีลศโตก ภาวะขาดน้ำ ในช่วงแข่งเห็นเด็กมีอาการเบรอ ๆ จึงได้บอกกับผู้ปกครอง จากนั้นผู้ปกครองได้นำเด็กที่มีอาการไปพบแพทย์ แพทย์ลงความเห็นว่า ขาดน้ำอย่างรุนแรง และยังมีเด็กอีกคน ที่โดนตีที่น่อง จนเลือดแข็งตัวเป็นลิ่ม ๆ จากนั้นตัดสินใจเอาเด็กกลับบ้านและออกจากโรงเรียนแห่งนั้นเลย ส่วนตนเองพบเห็นเหตุการณ์ จากนั้น 3 อาทิตย์ตนเองเริ่มมองหาโรงเรียนแห่งใหม่ให้ลูกชาย จึงได้ถามลูกชายปรากฏว่าลูกบอกไม่ไหวแล้ว อยากออก เนื่องจากลูกชายเล่าให้ว่า เมื่อฝึกซ้อมไม่ดีก็โดนลงโทษ แล้วเมื่อมีการแข่งขันทุก ๆนัด จะโดนด่า และลงโทษทำร้ายร่างกาย จนตนเองจึงได้พบ ผู้อำนวยการโรงเรียน และบอกเรื่องราวต่าง ๆ พร้อมจะทำการย้ายโรงเรียนไปที่แห่งใหม่ สำหรับวันนี้ ตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญมาพบและให้ปากคำเพิ่มเติมในกรณี โค๊ชทำร้ายร่างกาย ไม่อยากให้เกิดกรณีแบบนี้อีก

จากนั้นยังมีผู้ปกครองของน้องที่มาทำการฝึกซ้อมอีกคนมาเป็นพยานเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. หนองแค เรียกสอบ สำหรับตนเอง ลูกชายก็ได้ทำการฝึกซ้อมฟุตบอล ทีโรงเรียนแห่งนี้ โดยลูกตนเองได้ฝึกซ้อมร่วมกับน้องเอ(นามสมมุติ) ก็โดนลงโทษอยู่เหมือนกันแต่ตนเองก็มาเฝ้าลูกฝึกซ้อมทุกวัน จนวันหนึ่งพาลูกชายออกมากินอาหาร แล้วเข้าทำการฝึกซ้อมในเวลา บ่าย 3 โมงครึ่ง ทันเวลา เมื่อมาถึง ผู้ฝึกสอนบอกว่า ไม่ต้องซ้อม ตนเองจึงย้อนถามไปว่า ทำไมไม่ให้ซ้อมมาก็ตรงเวลา ผู้ฝึกสอนจึงย้อนไปว่า ไม่ให้ซ้อมแล้วเดินหนีไป ตนเองจึงเข้าไปขอพบ ผู้อำนวยการ ก็ยังไม่ได้คำตอบอะไร จนถึงตอนกลางคืน ตนเองได้รับ ข้อความบอกว่าให้กับมาเคลียร์ ตนเองจึงตอบกลับไปว่า มีอะไรก็โทร.มา จนรุ่งเช้า จากนั้นก็ทำเรื่องลาออก ไปเรียนที่โรงเรียนอื่นเลย ตนเองถามลูกชายว่าเป็นอย่างไร ได้รับคำตอบว่า หนูทนไม่ไว้แล้ว โดนลงโทษ ทุบหลัง และโดนดุว่าอยู่เรื่อยๆ

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!