ราชบุรี-โรงงานอาหารสัตว์สร้างความเดือดร้อนไม่แก้ใขเตรียมขยายเพื่ม

ราชบุรี-โรงงานอาหารสัตว์สร้างความเดือดร้อนไม่แก้ใขเตรียมขยายเพื่ม

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)

          โรงงานอาหารสัตว์สร้างความเดือดร้อนไม่แก้ใขเตรียมขยายเพื่มชาวบ้านหวั่นปัญหาการขยายโรงงานจะทำให้มีรถบรรทุกเข้าโรงงานจำนวนมากและฝุ่นละอองเพิ่มจำนวนมาก

ชาวบ้านค้านขยาย โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.ดอนกระเบื้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เปิดดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2546 ด้วยกำลังการผลิต 63 แรงม้า แต่หลังจากนั้น ชาวบ้านต่างได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องยาวนานทั้งในเรื่อง มลภาวะทางกลิ่น ฝุ่นละออง ที่ทำให้ชาวบ้านที่ทำเกษตรกรรมต้องได้รับความเสียหาย เกิดภูมิแพ้ มีเสียงดัง น้ำเสีย พาหะนำโรคต่างๆจากนกพิราบ และอันตรายจากรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ขนส่งวัตถุดิบเข้าออกโรงงาน จนทำให้ถนนของหมู่บ้าน ที่เล็กและแคบได้รับความเสียหายเป็นอันตรายแก่นักเรียนที่สัญจรไปมาโรงเรียนวัดดอนกระเบื้อง ที่มีนักเรียน 200 คนห่างจากโรงงานประมาณ 500 เมตร หากมีการขยายโรงงานจะทำให้มีรถบรรทุกเข้าโรงงานจำนวนมากและฝุ่นละอองเพิ่มมากขึ้นชาวบ้านได้แจ้งเรื่องเดือดร้อนดังกล่าวไปยังเจ้าของโรงงาน และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา จนกระทั่งล่าสุดชาวบ้านได้รับแจ้งว่า โรงงานได้ส่งเรื่องขออนุญาตไปยังอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อขยายกำลังการผลิตจาก 63 แรงม้า เป็น 142 แรงม้า ชาวบ้านเกรงว่าจะสร้างผลกระทบทวีคูณมากขึ้น จึงร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี เพื่อช่วยเหลือ
           นางอัญชลี แป้นแหลม อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 3 ต.ดอนกระเบื้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า มีผลกระทบเยอะมากไหนจะฝุ่นละอองน้ำเสียทุกๆสิ่งทุกๆอย่างผลกระทบวัวที่นอนหลับอยู่ก็ลุกขึ้นมาแข้งขาก็แบะแบบมันตกใจเสียงที่มันดังและฝุ่นละอองเป็นส่วนมากเลยฝุ่นละอองนี่เยอะยิ่งฤดูหนาวยิ่งเยอะมันจะพัดไปทางทิศเหนือแล้วมันจะพัดเข้าบ้านส่วนตอนนี้ดีขึ้นหน่อยเพราะเขามีสะแลนมาให้แต่ก็กันอะไรไม่ได้เพราะฝุ่นละอองมันปลิวขึ้นบนฟ้าถ้าลมมามันก็ยิ่งพัดออกไปไกลมันไม่ได้ใกล้อยู่แค่ที่บ้านพอมันติดสะแลนถ้าลมมามันก็พัดลงมาที่บ้านพื้นบ้านถ้าวันไหนไม่เช็ดนี่อยู่ไม่ได้ สุขภาพตอนนี้ก็ย่ำแย่ตอนใหม่ๆก็คิดว่าตัวเองแข็งแรงตอนนี้ก็สุขภาพแย่ยิ่งลูกลูกเป็นตั้งแต่โรงงานเขามาสร้างตอนนี้ย้ายไปเรียนไกลบ้านก็ดีขึ้นหน่อยแต่ตัวเองตอนนี้ก็สุขภาพแย่เหมือนกันหายใจติดขัดก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรก็คิดว่าเป็นอย่างอื่นแต่พอไปตรวจเคลื่อนหัวใจก็ไม่มีอะไรแต่ยังไม่ได้ไปตรวจสุขภาพประจำปีเพราะว่ามันพึ่งเริ่มเป็นมาสักค่อนปีนี้แล้วแต่ยังไม่ได้ไปตรวจสุขภาพ ไม่เคยมาตั้งแต่โรงงานสร้างเสร็จเจ้าของไม่เคยมาดูเลยเราร้องเรียนเข้าไปด้วยวาจาแต่เขาก็ไม่เคยเข้ามาถ้าพูดกันด้วยปากเปล่าบางทีก็แก้ไขเล็กๆน้อยๆให้เราก็หยวนๆกันไปเล็กๆน้อยๆแต่พอมาจริงๆแล้วก็ไม่เคยได้แก้ไขอะไรได้เราก็ทนกันมาจนกระทั่งน้ำเสียไหลเข้ามาที่บ้านเราก็ต้องทำเองหมดค่าใช้จ่ายไปก็เป็นแสนที่ไปร้องเรียนนี้ก็พึ่งจะมาดูทำให้เล็กน้อยแต่ก็กันไม่ได้วันที่24ที่ผ่านมาน้ำก็ยังไหลเข้ามาบ้างอยู่คือเขาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเล็กๆน้อยๆไม่ได้แก้ปัญหาหลักๆที่ว่าต้นต่อมาจากไหนเขาไม่ได้แก้ให้ตรงนี้ ยังไม่มีตั้งแต่สิบกว่าปีมาแล้วก็ยังไม่มีใครมาดูเลยตั้งแต่ร้องเรียนมาพึ่งจะมีหน่วยงานรัฐเข้ามาดูเดินดูรอบบ้านหนเดียวแล้วก็ยังไม่มีใครมาอีกเลย โรงงานที่ทำอยู่เขาก็ทำมากพอแล้วเราก็ไม่อยากให้ขยายเพิ่มเติมขึ้นเพราะว่าประชาชนอย่างเราๆมันก็เดือดร้อนอยู่แล้วที่เขามีอยู่ทุกวันเขาก็มากพอแล้วมันก็เยอะแล้วเพราะเราคิดว่าคนเราลงทุนไปแล้วมันก็พอที่จะอรุ่มอร่วยกันได้พอเขาคิดจะขยายต้องเห็นใจชาวบ้านเพราะชาวบ้านเขาเดือดร้อนจริงๆถ้าไม่เดือดร้อนเขาคงไม่ไปร้องเรียนกัน
                นางสาวจำเรียง จกรั้ว อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 3 ต.ดอนกระเบื้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า การจราจรเวลาคนออกไปทำงานเจอสิบล้อรถพ่วงมันก็จะติดจะสวนกันก็ไม่ได้ เสียเวลาไปทำงานก็ไม่ทัน บางทีออกไปธุระเร่งด่วนไปเจอรถติดก็จะต้องเสียเวลามากเพราะว่ามันสวนกันไม่ได้ จะต้องหลบกันลำบากเพราะถนนมันแคบมาก จะเดือดร้อนมากเพราะพี่ทำงานประจำ เรื่องสุขภาพบ้านก็อยู่ติดกับโรงงานเป็นโรคภูมิแพ้ ก็เป็นมาหลายปีแล้ว เพราะโรงงานนี้ก็ตั้งมา 16 ปีแล้ว พอเราสูดเข้าไปทุกวันๆฝุ่นละอองก็ทำให้เราเป็น พออายุมากขึ้นก็เป็นมากขึ้น ก็ต้องไปหาหมอ กินยาเป็นประจำ เสียทั้งเงินเสียทั้งสุขภาพ เราก็ทนกันมาตั้งนาน พอรู้ว่าจะขยายโรงงานเราก็ไม่ไหวแล้ว คิดว่ามันจะต้องมีฝุ่นละอองมากขึ้น แล้วก็รถจะต้องเพิ่มมากขึ้นเพราะเขาต้องขนวัตถุดิบ มันจะต้องแย่กว่าทุกวันที่เป็นอยู่แน่
                นางอำพร กลิ่นอบ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 96/2 หมู่ที่ 1 ต.ดอนกระเบื้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า เราเดือดร้อนเพราะบ้านอยู่หน้าถนนหน้าปากซอยเลย แล้วเวลารถวัตถุดิบที่เข้ามาส่งของในโรงงาน รถหลายคันส่วนมากจะไม่ค่อยคุมผ้าใบออกไป มันก็จะเกิดปัญหาฝุ่น บางทีนั่งอยู่หน้าบ้านต้องวิ่งเข้าร้าน คือมันเป็นฝุ่นละอองมากเลย อีกอย่างคือเรื่องการจราจรเพราะว่าเข้าออกซอยนี้ประจำ แล้วบางครั้งเจอรถพ่วงที่ออกไปช่วงโค้งก่อนที่จะถึงโรงงานรถพ่วงก็ออก รถพ่วงเข้าก็มี บางทีเห็นนักเรียนที่จอดอยู่ตรงกลางก็หามุมหลบให้ เพราะรถพ่วงสูงมองไม่เห็นมันก็สามารถเกิดอันตรายกับเด็กได้ แล้วอีกอย่างปัญหานกพิราบ เป็นสื่อนำเชื้อโรค เพราะมีแหล่งอาหารมันก็มากิน แล้วซุ้มหน้าวัดมีแต่นกพิราบมากเลย ดาดฟ้าด้านบนก็มีแต่ขี้นกพิราบ แล้วก็ซุ้มวัดดอนกระเบื้องถูกรถพ่วงที่นำวัตถุดิบเข้า-ออก ถูกทำให้ซุ้มวัดบิ่นจะพังลงมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าเกิดพังขึ้นมากลัวว่าผู้ประกอบการจะไม่รับผิดชอบ ที่นี้ก็จะต้องเดือดร้อนวัดที่จะต้องทำ แต่ว่าวัดจะต้องได้ชาวบ้านร่วมด้วยช่วยกัน เพราะมันก็ไม่ใช่เงินหมื่นที่จะต้องซ่อม มันเป็นเงินค่อนข้างเยอะ เรื่องเสียงฉันไม่ค่อยได้ผลกระทบเพราะว่าอยู่ปากทางจะเกิดปัญหาเรื่องฝุ่นกับจราจร แล้วก็ปัญหานกพิราบ รถบางคันมีควันดำมาก ฉันก็ไปคุยว่าไม่อยากให้ขยายโรงงาน เพราะว่าถ้าขยายโรงงาน รถก็จะต้องมากขึ้น การจราจรของหมู่บ้านก็ยิ่งแย่ลง ขอให้ปรับปรุงที่มีอยู่ให้เป็นโรงงานปิด โดยที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เขาก็รับปากว่าจะทำ แต่ไม่รู้จะทำให้หรือเปล่า ขับรถผ่านหน้าโรงงานเขาก็จะเห็นปัญหาถนนหน้าโรงงานเขามันแย่มาก

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!