ราชบุรี-ร้านไข่คูบัวโป๊ะแตก อดีตเจ้าของร้านเอาไปลงทะเบียน ด้านจนท.ขอให้มาชี้แจง

ราชบุรี-ร้านไข่คูบัวโป๊ะแตก อดีตเจ้าของร้านเอาไปลงทะเบียน ด้านจนท.ขอให้มาชี้แจง

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)

 ร้านไข่คูบัวโป๊ะแตก อดีตเจ้าของร้านเอาไปลงทะเบียน ด้านจนท.ขอให้มาชี้แจง

         จากกรณีเจ้าของ“ร้านไขคูบัว” เลขที่ 126/4 ถ.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ยันไม่เคยไปลงทะเบียนกับโครงการ“ชิมช้อปใช้” แต่กับมีชื่อร้านอยู่ในโครงการ“ชิมช้อปใช้” และมีผู้มาใช้บริการแต่กับไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ทำให้ทางร้านได้รับความเสียหาย จึงต้องร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ“ชิมช้อปใช้” เร่งตรวจสอบรายชื่อร้านที่อยู่ในโครงการดังกล่าวด้วย เพราะเกรงยังมีอีกหลายร้านถูกนำชื่อร้านไปสวมสิทธิ์
         ล่าสุดวันนี้(29 ก.ย.) เรื่องทั้งหมดได้โป๊ะแตกแล้ว เมื่อทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและเช็คชื่อผู้นำชื่อร้านไข่คูบัว ไปลงทะเบียนเข้าโครงการ“ชิมช้อปใช้” หลังมีข่าวเผยแพร่ออกไป จนพบว่าผู้ที่มาลงทะเบียนร้านไข่คูบัว กลับกลายเป็นอดีตเจ้าของร้านซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับร้านไข่คูบัวแล้ว เพราะเนื่องจากนางสาวสุชาสินีย์ ชุติพรอิทธิ เจ้าของร้านคนปัจจุบัน ได้เข้ามาทำกิจการต่อตั้งแต่ปี 2558 แล้ว ซึ่งทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ ทั้งบิลซื้อขายและเอกสารในการซื้อขายไข่ไก่ภายในร้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านไข่คูบัวแล้ว และได้เรียกอดีตเจ้าของร้านออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ แต่อดีตเจ้าของร้านกับติดต่อขอมาชื้แจงในวันพรุ่งนี้เนื่องจากได้เดินทางไปทำธุระต่างจังหวัด
         น.ส.สุชาสินีย์ ได้กล่าวว่า อดีตเจ้าของร้านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับร้านไข่คูบัวแล้ว ซึ่งปัจุบันตนเป็นเจ้าของร้านไข่คูบัว จ่ายค่าเช่าเอง ซื้อไข่มาขายเอง ซึ่งทุกอย่างตนเป็นคนจัดการเองตั้งแต่ปี 2558 หลังที่ได้ตกลงกลับอดีตเจ้าของร้านคนเดิม ในการเข้ามาขายไข่ตรงนี้ ซึ่งปัจจุบันตนก็ได้จ่ายค่าเช่าให้กับทางเจ้าของพื้นที่เองโดยไม่ผ่านใคร ซึ่งอดีตเจ้าของร้านได้บอกว่าเขาเป็นเจ้าของร้าน และตนเองเป็นลูกจ้าง แล้วนำชื่อร้านไปลงในโครงการชิมช้อปใช้ ซึ่งเรื่องนี้ตนอยากให้เขาออกมาชี้แจงกันต่อหน้าเลยว่า เขาเป็นเจ้าของร้านได้อย่างไร ไม่ใช่ไปพูดกับทางเจ้าหน้าที่อีกอย่างหนึ่ง และมาพูดกับตนอีกอย่างหนึ่ง คืออยากให้ออกมาชี้แจงพร้อมกันต่อหน้ากันเลย ถ้าอดีตเจ้าของร้านมีความบริสุทธิ์ใจ“ทำไมก่อนไปลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ไม่บอกตนเองก่อน ทั้งเบอร์โทรก็ไม่ได้ลง และที่สำคัญเลขที่บัญชีที่ไปขึ้นทะเบียนก็ไม่ใช่ของตนเอง แต่กับเป็นของอคีตเจ้าของร้าน” ซึ่งตนเองก็จะนำเอกสารไปชี้แจงเช่นเดียวกันเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งเรื่องนี้ตนยอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ตนก็ขอยื่นยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนไปลงทะเบียน แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่ลงมาตรวจสอบที่ร้านของตนกับบอกว่า เจ้าของร้านไปลงทะเบียนเอง ซึ่งทางอดีตเจ้าของร้านไปพูดแบบนั้นว่าเขาคือเจ้าของร้าน และตนเองเป็นลูกจ้างและเกิดเข้าใจผิด ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย และอดีตเจ้าของร้านก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาชื่อร้านนี้ไปลงทะเบียน ซึ่งตนก็อยากรู้มากว่าอดีตเจ้าของร้านเอาไปลงเพื่ออะไร
         น.ส.สุชาสินีย์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ในส่วนตัว ตนไม่ได้คิดอะไรที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ซึ่งตนขอยื่นยันไม่ได้ต้องการเอาผิดหรือจับผิดหน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ แต่ที่ออกมาเปิดเผยเพื่อป้องกันลูกค้าไม่ให้เข้าใจผิด และป้องกันการเอาชื่อร้านไปสวมสิทธิ์ ซึ่งตอนนี้ชื่อร้านนี้ก็ติดภาพลบไปแล้วในมุนมองของลูกค้า ตอนนี้ก็รอแค่อดีตเจ้าของร้านออกมาชี้แจง ว่าเขามีจุดประสงค์อะไร ที่ทำแบบนี้ จะหวังดีหรือไม่หวังดี แต่ตนต้องการให้เขาออกมาชี้แจง เพราะว่าแอพนี้มันผูกกับบัญชีทางเขา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับร้านนี้และตนเองเลย ตนจึงอยากรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ซึ่งวันนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทย และหน่วยงานราชการเข้ามาตรวจสอบและสอบถามข้อมูลที่ร้าน ซึ่งตนก็ได้นำเอกสารต่างๆให้ทางเจ้าหน้าที่ที่มาตรวจสอบไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ตัวเขาออกมาชี้แจงพร้อมกับตนว่าทำไปเพื่ออะไร

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!