ราชบุรี-ต้องให้ลูกผมตายก่อนหรอ!! ตัวแทนชาวบ้านกว่า 100 คน ขับไล่โรงงานผลิตน้ำมันเตา

ราชบุรี-ต้องให้ลูกผมตายก่อนหรอ!! ตัวแทนชาวบ้านกว่า 100 คน ขับไล่โรงงานผลิตน้ำมันเตา

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย (เต้)

 ตัวแทนชาวบ้านกว่า 100 คน ขับไล่โรงงานผลิตน้ำมันเตา(มีคลิป)

           ตัวแทนชาวบ้านตำบลดอนทราย กว่า 100 คน ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนให้โรงงานผลิตน้ำมันเตา บริษัท ธุวพลังงาน จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 55 ม.5 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ให้หยุดกิจการ หลังเสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านหมู่ที่ 3 หมูที่ 5 หมู่ที่ 9 ตำบลดอนทราย หมู่ที่ 4 ต.สามเรือน และหมู่บ้านดอนโพธิ์ ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม ได้รับความเดือดร้อนจากกระบวนการผลิตน้ำมันเตา ซึ่งชาวบ้านอ้างว่าโรงงานดังกล่าวทำให้เกิดมลภาวะเป็นพิษ ทั้งด้านกลิ่นเหม็นจากแก๊สส่วนเกิน ที่ทางโรงงานไม่ได้มีการกำจัดหรือบำบัดจึงต้องปล่อยทิ้งสู่อากาศ และน้ำเสียที่ทางโรงงานปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ นอกจากนี้โรงงานยังตั้งรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ โดยชาวบ้านอ้างเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธุ์ 2562 ได้มีคำสั่งจากทางปกครองให้โรงงานหยุดประกอบกิจการ แต่ทางโรงงานยังประกอบกิจการตามปกติ จึงทำให้เกิดมลภาวะเป็นพิษ ทั้งทางอากาศและแหล่งน้ำสาธารณะ ซึ่งชาวบ้านกว่า 3,000 คน ต้องรับผลกระทบมากว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งทางโรงงานรับปากชาวบ้านจะดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน แต่ปัจจุบันนี้ทางโรงงานยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ ชาวบ้านจึงร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทางโรงงานปิดกิจการหรือย้ายออกจากพื้นที่ไปเพื่อยุติปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน


              โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24-25 ของเดือน เม.ย.62 ตัวแทนชาวบ้านตำบลดอนทราย กว่า 100 คน ได้รวมตัวตั้งเต้นท์ประท้วงหน้าโรงาน บริษัท ธุวพลังงาน จำกัด เพื่อขับไล่โรงงานให้หยุดการผลิตและปิดกิจการ พร้อมชูป้ายข้อความที่มีใจความว่า”ท่านนายกประยุทธ์ ช่วยชาวบ้านด้วยค่ะ ทุกวันนี้ต้องซื้อน้ำยามดื่มกิน อีกหน่อยคงดับดิ้นซื้ออากาศไว้หายใจ” และป้ายข้อความว่า “ลุงตู่ช่วยหนูด้วยค่ะ หนูหายใจไม่ออก เกือบจะตายอยู่แล้ว” จนทางด้าน นายภาณุมาก คงพันธุ์ หัวหน้าส่วนงานเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี, พร้อมด้วย นายธีรเดช โปสพันธุ์ ปลัดอำเภอโพธาราม, นางอินทิรา ยิ้มละมัย วิศวกรชำนาญการ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี, นายรักษ์พร ปานรัตน์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ ศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันตก กรมโรงงานอุตสาหกรรม, ร.ต.ไชยพร ฤทธิ์อร่าม ห.ชุด รส.ชป.อำเภอโพธาราม กองพลพัฒนาที่ 1 เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลดอนทราย เจ้านายที่ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายพรเลิศ จันทร์ศิริเกียรติ พร้อมตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวนหนึ่ง ได้เข้าตรวจสอบกระบวนการผลิตของ บริษัท ธุวพลังงาน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันเตาทดแทน จากยางรถยนต์เก่า ด้วยวิธีการผลิตโดยระบบไพโรไลซิส Pyrolysis และได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เลขทะเบียน : 3-106-25/57รบ. เมื่อปี พ.ศ.2557 โดยมีนายติสรณ์ สระกิจ ผจก.บริษัท ธุวพลังงาน จำกัด เป็นผู้ให้ข้อมูลในการตรวจสอบกระบวนการผลิต และกระบวนการจัดกัดและบำบัดของเสีย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นทางบริษัทฯ มีการรุกล้ำพื้นที่รัฐ และยังไม่มีระบบกําจัดของเสียตามมาตรฐาน ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อมกำหนดไว้ ทางคณะผู้เข้าตรวจสอบจึงขอให้ทางโรงงานหยุดประกอบกิจการจนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขแล้วเสร็จ ให้ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งต้องให้คณะเข้าตรวจสอบระบบในการปรับปรุงแก้ไขแล้วเสร็จว่าเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ซึ่งทางหน่วยงานราชการได้ทำหนังสือข้อตกลง ลงวันที่ 24 เม.ย.62 ระหว่างโรงงานกับชาวบ้านไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน

              โดย นายพรเลิศ จันทร์ศิริเกียรติ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.3 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานดังกล่าวได้เปิดเผยว่า โรงงานดังกล่าวได้เปิดกิจการเมื่อปี พ.ศ.2557 ซึ่งตำบลดอนทราย ถูกประกาศเป็นพื้นที่สีเขียวตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 ซึ่งตนเองและชาวบ้านก็สงสัยว่าทำไมกรมโรงงานอุสาหกรรม จึงอนุมัติให้โรงงานดังกล่าวก่อสร้างได้ และหลังจากมีการเปิดการผลิตชาวบ้านในพื้นที่ตั้งแต่ หมู่ที่ 3,5,และหมู่ที่ 9 ก็ได้รับผลกระทบเดือดร้อนทั้งด้านมลภาวะทางกลิ่นที่เกิดจากแก๊สในกระบวนการผลิต โดย 60% จะนำกลับไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิต ส่วนอีก 40% ซึ่งถือเป็นส่วนเกินที่ทางโรงงานไม่มีระบบกำจัดก็ถูกปล่อยออกมา ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณรัศมี 2 กิโลเมตร ต้องสูบดมแก๊สส่วนเกินดังกล่าวที่ทางโรงงานปล่อยออกมา นอกจากนี้ทางโรงงานยังไม่มีบ่อบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐานตามที่กรมโรงงานอุตสหกรรม และสิ่งแวดล้อม กำหนดไว้ แถม ทางโรงงานก็ปล่อยปละละเลยปล่อยน้ำเสียและน้ำมันที่ได้จากกระบวนการผลิต ไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ บริเวณคลองปากน้ำใหญ่ ซึ่งติดคลองซอยชลประทาน และลำน้ำตาแพ จนชาวบ้านบริเวณดังกล่าวไม่สามารถใช้น้ำได้ และบ้างบ้านต้องซื้อน้ำใช้ดื่มกิน เพราะกลัวสารปนเปื้อนที่ปะปนมากับน้ำ ซึ่งตลอดเวลา 5 ปีกว่า ชาวบ้านได้รับผลกระทบเกือบ 3,000 คนแล้ว และได้ร้องเรียนมาตลอดกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่่ยวข้อง แต่ก็จบและเงียบหายด้วยเหตุผลว่า “ทางโรงงานกำลังปรับปรุงแก้ไขอยู่” จนมาถึงปัจจุบันนี้ ที่ชาวบ้านต้องมาตั้งเต้นท์ขับไล่โรงงาน เพราะชาวบ้านทนไม่ไหวแล้ว และรับสภาพที่ทุกข์ทรมานไม่ไหวแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปีกว่า ทีผ่านมาทางโรงงานรับปากกับชาวบ้านว่าจะปรับปรุงแก้ไข แต่ก็ไม่เคยมีการแก้ไขอะไรเลย ปล่อยทั้งแก๊ส น้ำเสีย และน้ำมัน ทำให้สภาพแวดล้อมแย่จนชาวบ้านบางรายทนไม่ไหวต้องย้ายออกไปหาที่อื่น หรือช่วงเวลาที่ทางโรงงานปล่อยแก๊สออกมาชาวบ้านหลายครัวเรือนต้องหนีหลบไปอยู่ที่อื่น เพื่อไม่ให้คนในครอบครัวและลูกหลานต้องสูบดมแก๊สเข้าไป

                 นายพรเลิศ ยังเปิดเผยอีกว่า ตนเองและครอบครัวต้องประสบปัญหาสูบดมแก๊สที่ทางโรงงานปล่อยออกมาทุกวัน จนวันนี้ลูกสาวอายุ 7 ขวบก็เริ่มป่วยเพราะสูบดมแก๊สเข้าไป โดยลูกสาวอายุ 7 ขวบ จะมีอาการผื่นขึ้น แน่นหน้าอก และอาเจียน จนต้องพาไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายครั้งแล้ว ซึ่งทางผู้จัดการโรงงานก็เคยมาดูที่บ้านและเห็นอาการของลูกสาวของตนเองว่าเป็นแบบนั้นจริง และก็รับปากจะแก้ไขให้แต่ก็เงียบหาย และเป็นเหมือนเดิมแบบนี้มาตลอด 5 ปีกว่าแล้ว ซึ่งหน่วยงานที่ลงมาแก้ไขก็อ้างว่าไม่มีอำนาจที่จะสั่งปิดโรงงาน “ซึ่งลูกสาวผมได้รับผลกระทบโดยตรงจากโรงงาน แต่สิ่งที่หน่วยงานราชการจะมาอธิบายชาวบ้าน โดยอ้างหลักการและเหตุผลว่าไม่มีอำนาจ แต่พวกคุณเคยเห็นใจลูกสาวผม และชาวบ้านบ้างไหม ลูกสาวผมและลูกหลานในหมู่บ้านจะตายกันหมดแล้ว หรือจะต้องรอให้ลูกสาวผมตายห่าก่อนหรือ หน่วยงานราชการถึงจะมีอำนาจ” ผู้ได้รับผลประโยชน์คือคนกี่คน แต่ผู้ได้รับผลกระทบเดือดร้อนกี่พันคน ขอหน่วยงานราชการที่มีอำนาจเกี่ยวข้องเห็นใจชาวบ้านตาดำๆอย่างพวกผมด้วย
                    ส่วนทางด้านนายติสรณ์ สระกิจ ผจก.บริษัท ธุวพลังงาน จำกัด ได้เปิดเผยว่า ทางโรงงานมีเตาเผายางรถยนต์เก่าขนาด 10 ตัน โดยใช้เชื้อเพลิงจากไม้และแก๊สที่ได้จากกระบวนการผลิต เพื่อผลิตน้ำมันเตาอยู่ 6 เตา แต่เปิดใช้งานได้จริงแค่ 4 เตา เพราะอีก 2 เตานั้นเสีย ซึ่งหนึ่งเตาจะสามารถเผายางรถยนต์เก่าได้ครั้งละ 9 ตัน และจะสลับเผายางรถยนต์ครั้งละ 2 เตาเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันทางโรงงานมีการปรับปรุงแก้ไขระบบกำจัดและบำบัดของเสียอยู่ แต่ยอมรับว่ามีความล่าช้า ซึ่งตนเองได้ปรึกษากับทางผู้บริหารโรงงานแล้วว่า จะยอมหยุดการผลิตไปจนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขระบบกำจัดและบำบัดของเสียให้แล้วเสร็จ และจะเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยว ตลอดจนตัวแทนชาวบ้าน เข้ามาร่วมตรวจสอบ จึงจะเปิดกระบวนการผลิตต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!