ปราจีนบุรี-คืบหน้า ขึงตาข่ายขวางกั้นลำน้ำดักรอ 11ซากช้างป่า

ปราจีนบุรี-คืบหน้า ขึงตาข่ายขวางกั้นลำน้ำดักรอ 11ซากช้างป่า

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

      (คืบหน้า)-ขึงตาข่ายขวางกั้นลำน้ำดักรอ 11ซากช้างป่าเรียบร้อย 1จุด พรุ่งนี้ขึงอีก1 จุดเหนือเขื่อนขุนด่านฯ แจงไม่เกิดมลพิษในอ่าง พรุ่งนี้จัดโดรนโปรยปูนขาวสลาย 11 ซากช้างไม่รอมถึงจุดดักตาข่าย – จัดเวรฯยามตลอด 24 ชั่วโมงป้องกันช้างเดินผ่านเหนือน้ำตกเหวนรก

        ความคืบหน้า กรณีช้างป่าพลัดตกลงไปในน้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีความสูงชันกว่า 80 เมตร ระหว่างเดินข้ามลำน้ำเหนือปากน้ำตกจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง ส่งผลให้ช้างป่าล้ม 6 ตัว และ รอดชีวิต 2 ตัว โดยติดที่หน้าผาฝั่งตรงข้าม ต่อมาช้างทั้ง 2 ที่เป็นแม่ลูกที่รอดชีวิตได้เดินข้ามลำน้ำกลับมารอขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดการท่องเที่ยวฝั่งน้ำตกเหวนรก พร้อมจัดชุดสังเกตการณ์ พร้อมให้อาหาร,น้ำหวานยาปฏิชีวนะบำรุงร่างกาย และช่วงค่อนรุ่งวันที่ 6 ต.ค.62 เวลาประมาณ 04.00 น.ช้างได้หายตัวออกไปจากริมฝั่ง คาดว่าเดินขึ้นฝั่งเข้าป่าไปแล้วจึงได้จัดชุดลาดตระเวนติดตามช้างแม่-ลูก พบรอยเท้าช้างป่าแม่-ลูก ,ขี้ช้างที่มีซากหยวกกล้วย,สัปปะรด,ที่ จนท.จัดให้กินก่อนหน้า จึงมั่นใจว่าช้างป่าปลอดภัย ได้ยุติภารกิจการติดตาม และ พบว่าแรงดันกระแสน้ำตกได้พัดซากช้างไปด้านล่างแล้ว 4 ตัว เหลือซากช้างตายที่ น้ำตกเหวนรกชั้น 2 จำนวน 2 ตัว จึงปิดยุทธการติดตามหา แต่ได้ปฏิบัติภารกิจในการค้นหาซาก-กู้ซากช้างป่าไม่ให้ไหลลงไปในอ่างเก็บน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายกด้านล่ง หรือ ไม่ให้เกิดมลภาวะในสายน้ำ
        ได้เดินทางเข้าไปด้านเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ล่องเรือขึ้นเหนือน้ำ เข้าสู่คลองต้นไทร จากนั้นจะเป็นโขดหินขนาดใหญ่ และหน้าผาที่ไม่สามารถล่องเรือต่อไปได้ ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตรเพื่อสำรวจุดที่จะนำเชือกขนาดใหญ่มาทำเป็นตาข่ายกั้นลำน้ำที่ไหลมาจากน้ำตก ซึ่งพัดพาซากช้างป่าที่ตายจำนวน 6 ตัว ให้มาติดตาข่าย ไม่ให้ลงไปถึงเขื่อนฯ ล่าสุดจากการบินโดรนสำรวจที่น้ำตกเหวนรก ทั้ง 5 ชั้น ได้พบซากช้างป่าตายเพิ่มอีก 5 ตัว รวมมีช้างป่าตกน้ำตกเหวนรกตายทั้งสิ้น 11 ตัว เหลือรอดเพียง 2 ตัว ตามที่เสนอข่าวอย่างต่อเนื่องก่อนหน้า นั้น
        เมื่อเวลา 21.30 น.วันนี้ 8 ต.ค.62 นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) กล่าวว่า “นับเป็นโศกนาฏกรรมแก่ประชาชน หลังจากทางสมาคมตอบโต้พิบัติฯ ได้ทำการบินสำรวจเพื่ออย่างละเอียดเหนือน้ำตกเหวนรก หลังท้องฟ้าเปิด เพื่อเป็นการหาแนวทางในการที่กอบกู้ซากช้างที่ตาย ได้พบซากช้างป่าตายลอยขึ้นอืดในน้ำตกเหวนรกชั้นต่าง ๆเพิ่ม เติมจากเดิมที่มี 6 ตัว พบ ล่าสุดอีก 5 ตัว รวมซากช้างป่าตายจำนวน 11 ตัว เหลือดรอดและพบร่องรอยออกมากินอาหารอีก 2 ตัว รวมโขลงช้างป่าที่พลัดตกน้ำตกเหวนรกทั้งหมด 13 ตัว”
         และในวันนี้(8ต.ค.) เจ้าหน้าที่ป่า-หน่วยกู้ภัย รวม 3 ชุด ลงเรือจาก หัวเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก วิ่งเรือเข้าไปตามคลองไทร ย้อนขึ้นมาด้านเหวนรก ทำการวางตาข่ายขนาดใหญ่ ในการดักซากช้างป่าทั้ง 11 ตัว ไม่ให้ลงมาถึงในเขื่อนขุนด่าน ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะมลพิษในอ่างเก็บน้ำฯ โดยวางตาข่ายเสร็จแล้ว 1 จุด เหลืออีก 1 จุด จะดำเนินการต่อวันพรุ่งนี้ (9 ต.ค.)” นายวิทยากล่าว
         และ ได้วางแผนการปฏิบัติงานในพรุ่งนี้ ( 9 ต.ค.) จะจัดชุดบินโดรน สำรวจซากช้างป่า จากน้ำตกชั้นที่ 5 พร้อมกับโรยปูนขาว จะเร่งดำเนินการก่อน ไม่รอให้ซากไหลมาตามที่เราวางขึงดักตาข่ายไว้ที่ปากคลองต้นไทร”
         “พร้อมกันนี้ในแผนระยะสั้นที่ป้องกันไม่ให้ช้างป่า ตกลงไปในน้ำตกเหวนรก จะได้จัดชุดทำหน้าที่เวรฯเฝ้าระวังช้างป่าตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อพบช้างป่าลงมาเพื่อข้ามลำน้ำ หากสภาพน้ำไหลแรง-เชี่ยวกรากเป็นน้ำป่า จะต้อนช้างออกนอกเส้นทาง หากสภาพน้ำไหลปกติ จะให้ข้ามได้ตามธรรมชาติ พร้อมจะซ่อมแซมเสาพะเนียดที่เป็นแท่งปูนขนาดใหญ่ ที่ตั้งกั้นตลอดแนวเหนือน้ำตกเหวนรก เป็นแนวป้องกันช้างป่าเพิ่มเติมและ ร่วมกันกับมหาวิทยาลัยพระนครเหนือติดตั้งแอป-โซลาเซล เมื่อช้างป่าเข้ามาใกล้จะมีสัญญาณแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่รู้ หากช้างจะข้ามลำน้ำ สภาพที่เป็นน้ำป่า ไหลแรงจะไม่ให้ผ่าน แต่หากปกติจะให้ข้ามไปได้ ส่วนในระยะยาว จะทำแนวสะพานต่อจากของเดิมที่กว้างกว่า 4 เมตรสภาพแข็งแรงช้างป่าสามารถเดินข้ามได้ต่อไป”นายวิทยากล่าว

         ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมในวันนี้ ทีมข่าวได้ลงเรือพร้อมป่าไม้และหน่วยกู้ภัยไปทำการขึงตาข่ายกั้นลำน้ำคลองต้นไทร โดยขึ้นไปเกือบ 8 กม. และขึงตามข่ายเรียบร้อยแล้ว 1 ปาก ยังเหลืออีก 1 ปากที่จะขึงอีกจุดด้านบน ป้องกันไม่ให้ซากช้างป่าลอยมาถึงในเขื่อนขุนด่านฯ

          และจากที่เป็นที่วิตกว่าซากช้างป่าที่ติดโขดหินไว้หลายวันจนเน่าเปื่อย จะมีเชื้อโรค หรือส่งผลกระทบกับน้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชลหรือไม่ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ช้างป่าทั้ง 6 ตัวไม่ได้ตายจากการเจ็บป่วยหรือติดเชื้อ แต่ตายเพราะอุบัติเหตุ ปัญหานี้จึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็ไม่นิ่งนอนใจ สั่งให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องตรวจสอบคุณภาพน้ำลงพื้นที่เก็บข้อมูลเอาไว้

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ก่อนโขลงช้างป่า 13 ตัวจะตกจากหน้าผาน้ำตกเหวนรกลงมาตายหมู่ รวม 11 ตัว เหลือรอดเพียง 2 ตัวแม่-ลูกนั้น เมื่อวันที่ 3 ต.ค.62 อันเป็นช่วงเริ่มต้นหนาว พบโขลงช้างป่าจำนวนมากกว่า 50 ได้ออกมาเดินหากินบนถนนสาย 3077 (ปราจีนบุรี – เขาใหญ่) โดยพบใน 2 จุดคือด้านท้ายอ่างเก็บน้ำสายศร หรือ ด่านหนองอึ่งและบริเวณผาตะแบก หรือดงยาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯชุดเคลื่อนที่เร็ว ได้คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้ช้างป่าที่ออกหากินปลอดภัย – กลับเข้าในราวป่า และให้นักท่องเที่ยวปลอดภัยไป-มาสะดวก ไม่เข้าไปใกล้ โดยเฉพาะการถ่ายภาพกับช้างป่า

           สำหรับข่าวโศกนาฏกรรมช้างป่า ที่ตายจากการตกเหวนรก! ในอดีตนับจากปี พ.ศ.2530 เคยมีช้างตกลงไปจนเสียชีวิต 2 ตัว เจ้าหน้าที่ต้องทำเสาปูนมากั้น ไม่ให้ช้างผ่าน

           แต่ช้างก็เลี่ยงไปใช้เส้นทางอีกเส้น ซึ่งก็เกินเหตุขึ้นอีกใน ช่วง วันที่ 2 สิงหาคม 2535 มีช้างต้องสังเวยน้ำตกเหวนรก อีก 8 ตัว หลังจากที่เดินผ่านเหนือต้นน้ำหน้าปากเหวที่สภาพน้ำไหลแรง –เชี่ยวกราก จนลูกช้างพลัดตก และตัวอื่น ๆ ในฝูงต่างพากันช่วยเหลือตกหน้าผาตามตามกัน

           และสำหรับโศกนาฎกรรม ที่เกินขึ้นครั้งนี้ แหล่งข่าววิเคราะห์ว่า ลักษณะเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตปี 2535 หลังจากจ่าฝูงน่าจะพาเดินมาทางสันเขาผ่านน้ำตกชั้นที่ 1 ที่ห่างจากศาลาแปดเหลี่ยมประมาณ 1 กิโลเมตร ที่้มีเสาปูนกันช้างตกอยู่ แต่ช้างสองตัวเกิดพลาดตกลงไป และ ด้วยช้างที่เป็นสัตว์สังคม ไม่ทิ้งกันเลยพยายามลงไปช่วย เลยพากันตกลงไปติดด้านล่าง และ เสียชีวิตไปแล้ว ถึง 11 ตัว รวมกับในอดีต เมื่อปี 2530 เท่ากับที่นี่ได้คร่าชีวิตช้างไปแล้ว ถึง 21 ตัว

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!