“หัวหิน ไวน์ ซาฟารี”ชมไร่องุ่นแห่งแรกเมืองประจวบคีรีขันธ์

 “หัวหิน ไวน์ ซาฟารี”ชมไร่องุ่นแห่งแรกเมืองประจวบคีรีขันธ์

เรื่องโดย:ทีมข่าวเฉพาะกิจ
         หัวหินฮิลส์ ไร่องุ่นแห่งแรกและแห่งเดียวของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่สร้างสรรค์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์รูปแบบใหม่ กับ ที่รวมเอาความโดดเด่นของวัฒนธรรมการดื่มไวน์ผนวกกับการท่องเที่ยวแบบผจญภัย ที่ให้บรรยากาศความงดงามของธรรมชาติและสัตว์ป่ามาไว้ด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งต้นกำเนิดของไวน์ไทย ณ ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ และพาไปชมสัตว์ป่าถึงถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
“หัวหิน ไวน์ ซาฟารี” เกิดขึ้นจากการร่วมมือพัฒนาพื้นที่ในชุมชนระหว่างบริษัท สยาม ไวเนอรี่ ซึ่งนำโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากไร่องุ่นหัวหินฮิลส์และบุคลากรในชุมชนเขตอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในเรื่องของวัฒนธรรรมการดื่มไวน์ในประเทศไทยและสร้างความตระหนักในการหวงแหนทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศไทย พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยอนุรักษ์สัตว์ป่าและป่าไม้ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ป่านานาชนิดผ่านการท่องเที่ยวแนวผจญภัย หนึ่งวันเต็มที่จะมีผู้นำเที่ยวส่วนตัว

สำหรับทุกทริป ซึ่งจำกัดจำนวนที่นั่งนักท่องเที่ยวไม่เกิน 6 คนต่อทริป หรือไม่เกิน 3 ท่านต่อรถจี๊ป 1 คัน เริ่มต้นการเดินทางตั้งแต่ช่วงเช้า โดย ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ จะส่งรถจี๊ปไปรับนักท่องเที่ยวถึงสถานที่ที่พักอาศัยภายในตัวเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นรถจี๊ปจะนำนักท่องเที่ยวไปชมแหล่งกำเนิดของไวน์ไทย ณ ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ ซึ่งใช้เวลาการเดินทางจากตัวเมืองหัวหินประมาณ 45 นาที
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของพื้นที่สีเขียวสดขจีของไร่องุ่นที่รายล้อมด้วยภูเขาซึ่งมอบภูมิประเทศอันเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการให้กำเนิดผลองุ่นคุณภาพเยี่ยมเพื่อผลิตไวน์ชั้นดี แล้วเพลิดเพลินกับการดื่มด่ำไวน์ไทยแท้ๆ “มอนซูน แวลลีย์” หนึ่งในไวน์จากเส้นรุ้งใหม่หรือนิวละติจูดไวน์อันเป็นผลผลิตอันทรงคุณค่าของไร่องุ่นแห่งนี้ ที่เสิร์ฟเข้าคู่มากับเมนูอาหารสไตล์บิสโทร ณ ร้านอาหารเดอะศาลา ไวน์บาร์ แอนด์บิสโทร

            หลังจากเยี่ยมชมไร่องุ่นหัวหินฮิลส์แล้ว ก็จะเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติกุยบุรีพร้อมสัมผัสความงดงามของธรรมชาติตลอดสองข้างทาง โดยผู้นำเที่ยวส่วนตัวจะได้เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจตลอดระยะเวลาเดินทาง เมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง ทุกคนจะได้เข้าร่วมกิจกรรมส่องสัตว์ป่าพร้อมชมความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ป่าต่างๆ อาทิ โขลงช้างป่า ฝูงกระทิง และฝูงวัวแดง ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ในพื้นที่ 969 ตารางกิโลเมตร ของอุทยานฯ และก่อนตะวันคล้อยดิน รถจี๊ปจะนำนักท่องเที่ยวออกจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อส่งท่านถึงสถานที่พักอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย

 

 

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!